ช่วงปลายปี Motorola ส่งสมาร์ทโฟน Android One รุ่นล่าสุดในชื่อ Motorola One เข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว ในดีไซน์ตามสมัยนิยมด้วยหน้าจอ 5.9 นิ้ว พร้อมรอยบากขนาดใหญ่ ฝาหลังเป็นกระจก และวางขายแบบ Exclusive กับ Truemove H ในราคา 7,990 บาท

สเปก Motorola One มีดังนี้

• หน้าจอขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1520 x 720 พิกเซล)
• รองรับ 2 ซิม ประเภท Nano SIM, ถาดซิมสามารถใส่ 2 ซิม + microSD card ได้พร้อมกัน
• ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
• ชิป Snapdragon 625, จีพียู Adreno 506
• แรม 4GB, สตอเรจ 64GB
• กล้องหลังคู่ 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
• มีสแกนลายนิ้วมือฝังอยู่ที่โลโก้ด้านหลัง
• พอร์ท USB Type-C, มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว TurboPower

ตัวเครื่อง

ตามที่บอกไปเมื่อตอนต้นครับว่าดีไซน์ของ Motorola One เป็นไปตามสมัยนิยม หน้าจอครอบด้วยกระจก พร้อมรอยบากขนาดใหญ่ ฝาหลังเป็นกระจกที่มีความเงางาม เกิดรอยนิ้วมือง่ายก็จริง แต่สามารถเช็ดออกง่ายเช่นกัน

น้ำหนักตัวเครื่อง 162 กรัม เบาพอสมควร หยิบถือด้วยมือเดียวสบาย แต่ในความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียนเมื่อเทียบกับดีไซน์ของ Moto e5 Plus ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ด้วยลักษณะของฝาหลังที่มีโค้งรับกับอุ้งมือและให้ความรู้สึกกระชับเมื่ออยู่ในมือมากกว่าฝาหลังที่มีลักษณะเรียบแบนของ Motorola One

หน้าจอ Motorola One มีขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1520 x 720 พิกเซล) เมื่อเจอกับสภาพแสงมากๆ ก็สู้แสงได้ดีระดับหนึ่ง ยังมองเห็นแอปฯ และตัวหนังสือบนหน้าจอได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Always On Display คอยแสดงวันที่, เวลา, สถานะแบตเตอรี่ และการแจ้งเตือนต่างๆ อัตโนมัติขณะหน้าจอปิดอยู่

ปุ่มและพอร์ทรอบตัวเครื่อง ได้แก่ ขอบตัวเครื่องด้านขวาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มพาวเวอร์, ขอบด้านซ้ายเป็น ถาดซิมสามารถใส่ 2 ซิม + microSD card ได้พร้อมกัน

ขอบตัวเครื่องด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ส่วนขอบด้านล่างเป็นช่องลำโพงเสียงกับพอร์ท USB Type-C

การใช้งาน

Motorola One ใช้ชิป Snapdragon 625, จีพียู Adreno 506, แรม 4GB และสตอเรจ 64GB เป็นสมาร์ทโฟนในสเปกระดับกลาง มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo พร้อมเอกลักษณ์ที่ยังเน้นความเป็น Pure Android โดยในไทยยังไม่มีวี่แววได้อัพเดตเป็น Android 9 Pie รวมถึงแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนพฤศจิกายน 2018 แม้จะมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า Motorola ปล่อยอัพเดต Android เวอร์ชันล่าสุดแล้วก็ตาม

การสั่งงานแบบ Gesture ในแบบฉบับของ Moto ยังมาพร้อม Moto Action กับ Moto Display ซึ่งมีให้ใช้งานเพียงไม่กี่อย่างเหมือนเช่นทุกรุ่นที่ผ่านมา

ด้วยสเปกระดับกลางการใช้ทั่วไปอย่าง Facebook, LINE, Instagram, ดู YouTube / Netflix สามารถใช้งานได้สบายๆ ส่วนการเล่นเกมที่ผู้เขียนทดสอบ ได้แก่ Asphalt 8 กับ Infinity Ops ก็พบว่าการตอบสนองต่อการกดทำได้รวดเร็ว ยังไม่พบจังหวะสะดุดในระหว่างเล่น, เครื่องร้อนช้า และภาพของเกมจะไม่แสดงผลไปถึงรอยบาก

สแกนลายนิ้วมือ

Motorola One ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้กับโลโก้ Motorola ด้านหลังตัวเครื่อง แค่แตะก็สามารถสแกนและปลดล็อกหน้าจอได้แล้วแม้ในขณะปิดหน้าจอ อย่างไรก็ตามหากนิ้วมือของเราเปียกน้ำจะไม่สามารถสแกนติดได้

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหลังของ Motorola One เป็นเลนส์คู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0 + 2 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4, แฟลช LED, มีโหมดถ่ายภาพบุคคล รองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K

ในการถ่ายภาพจริงพบว่าจังหวะการจับภาพในสภาพแสงปกติทำได้รวดเร็ว สีของภาพเป็นธรรมชาติ ไม่สดหรือซีดจนเกินไป แต่ต้องยอมรับว่าการถ่ายภาพกลางคืนยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากซูมภาพถ่ายกลางคืนยังพบจุดบนภาพเยอะพอสมควร และสีของภาพตอนกลางคืนค่อนข้างซีดและแสงโดยรอบจะฟุ้งไปเล็กน้อย

ภาพถ่ายจากกล้องหลัง ไม่ปรับแต่งใดๆ แค่ลดขนาดภาพลงมาเท่านั้น

แบตเตอรี่

Motorola One มีแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าน้อยไปหน่อย แต่ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว TurboPower ที่ Motorola เคลมว่าสามารถชาร์จ 15 นาทีใช้งานได้ 4.5 ชั่วโมง จากการชาร์จจริงในระหว่างที่แบตเตอรี่เหลือไม่ถึง 20% ชาร์จทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ระบบชาร์จเร็วช่วยให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานเพิ่มขึ้นอีกราว 6-7 ชั่วโมง

นอกจากนี้การใช้งานทั่วไป เช่น เช็กอีเมล, เปิด Facebook, แชท LINE แบตเตอรี่ก็ทนได้ครบ 1 วัน แต่หากใช้ทั้งเล่นเกม ถ่ายรูปเยอะๆ ด้วยแล้ว ก็คงต้องมีพาวเวอร์แบงค์พกติดตัวไว้ครับ

สรุป

สิ่งที่ Motorola One พยายามชูจุดเด่นให้เห็น คือ การเป็น Android One ที่การันตีเรื่องอัพเดตระบบปฏิบัติการได้อีกหลายเวอร์ชันและแพตช์ความปลอดภัยประจำเดือน รวมถึงให้ความลื่นไหลในระหว่างใช้งาน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่ขายในไทยจะได้อัพเดต Android 9 Pie เมื่อไหร่

ส่วนการใช้งานหากผู้ใช้ไม่ได้เจาะจงเรื่องฟีเจอร์ล้ำๆ หรือการถ่ายภาพที่ต้องการความคมชัดระดับสูง Motorola One ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ตอบโจทย์การใช้งานพื้นๆ อย่างเล่น Facebook, ตอบแชท LINE, Instagram, ดู YouTube / Netflix ได้สบายๆ

เรื่องของราคาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน Motorola One กับราคา 7,990 บาท แม้ราคาจะต่ำหมื่น แต่เมื่อมองไปที่คู่แข่งในราคาใกล้เคียงกันก็นับว่า Motorola One เจองานยากในการทำตลาดไม่น้อย เช่น Huawei Y9 2019 มีจุดเด่นด้วยขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว ที่ใหญ่กว่า ความละเอียดการแสดงผล FHD+ (2340×1080 พิกเซล), กล้องถ่ายภาพด้านหน้า 16 + 2 ล้านพิกเซล และด้านหลัง 13 + 2 ล้านพิกเซล รวมกัน 4 ตัว พร้อม AI ช่วยถ่ายภาพ, แบตเตอรี่ 4000 mAh และราคา 6,990 บาท ซึ่งถูกกว่า Motorola One (ราคาอ้างอิงจาก Official Store ของ Huawei ใน Lazada)

หรือจะเป็นอีกรุ่นอย่าง Xiaomi Mi A2 ขนาดหน้าจอ 5.99 นิ้ว ใกล้เคียงกับ Motorola One ความละเอียการแสดงผลเป็น Full HD+, ชิป Snapdragon 660, กล้องหลังคู่ 20 + 12 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ 3010 mAh ราคาเท่ากับ Motorola One แต่สเปกค่อนข้างเหนือกว่าในหลายจุด (ราคาอ้างอิงจาก Official Store ของ Xiaomi ใน Lazada)