John Burg เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบาย, การวางแผน, และการเรียนรู้ ของ USAID หน่วยงานให้ความช่วยเหลือชาติอื่นของสหรัฐฯ เขียนบล็อคถึงการสำรวจความสำเร็จของโครงการบล็อคเชนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เขาสำรวจโครงการบล็อคเชน 43 โครงการ พบว่าโครงการเหล่านี้มักสัญญาอย่างยิ่งใหญ่ เช่น ลดค่าใช้จ่ายลง 90%, หรือ เก็บข้อมูลได้อย่างแม่นยำ แต่เมื่อพยายามติดต่อหน่วยงานผู้ดูแลโครงการเหล่านี้ กลับไม่มีใครให้ข้อมูลความสำเร็จของโครงการเลยแม้แต่โครงการเดียว
การที่โครงการเหล่านี้ปิดผลลัพธ์ไว้เงียบเป็นแนวทางที่ตรงข้ามกับการโฆษณาบล็อคเชนว่าจะเปิดเผยทุกอย่างให้โปร่งใสขึ้น และไม่ต้องการความเชื่อใจของหน่วยงานกลางใดๆ แต่พอนำมาทดสอบจริงกลับไม่สามารถตรวจสอบผลได้โดยง่าย
Burg วิจารณ์ว่าหน่วยงานให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบบล็อคเชนเหล่านี้ไม่ทำตัวให้โปร่งใส และปล่อยให้วงการเต็มไปด้วยคำโฆษณาว่าบล็อคเชนทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยไม่มีข้อมูลว่าอะไรที่มีคนเรียนรู้มาแล้วว่าใช้งานไม่ได้
ตัวอย่างบล็อคเชนระดับนานาชาติ เช่น World Food Program (WFP) เคยทดสอบบล็อคเชน แม้จะมีการรวมบัญชีต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการ แต่ตัวบล็อคเชนที่ใช้กลับเป็นเพียงเชนภายในของ WFP ไม่มีหน่วยงานภายนอกใดๆ มาใช้งานร่วมด้วย ทำให้การใช้ฐานข้อมูลธรรมดาๆ น่าจะง่ายกว่ามาก
ที่มา - MERL Tech
ภาพโดย cortixxx
Comments
"ทำให้การใช้ฐานข้อมูลธรรมดาๆ น่าจะง่ายกว่ามาก"
ผมว่าหลายๆโครงการก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน
พูดง่ายๆคือ กลับไปใช้ DBMS แบบเดิมๆเถอะ
blockchain เหมาะอยู่กับงานพวก ledger เท่านั้น ถ้างานอื่นเอาไปใช้สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับขี่ช้างจับตั๊กแตก ต้องมา modify ให้ใช้ได้จนเสียคุณสมบัติของ blockchain ไป และ blockchain เองก็ไม่ได้เร็วอยู่แล้วยิ่งต้องมา modify อีกก็ยิ่งแย่ลงไป สุดท้ายก็กลับไปใช้พวก sql หรือ nosql ดีกว่าเยอะ อาศัย replica เอาก็น่าจะพอครับ