ในงานสัมมนา Build 2018 เมื่อเดือนพฤษภาคม ไมโครซอฟท์เผยว่าตัวเลขอุปกรณ์ที่รัน Windows 10 อยู่ที่ "เกือบ 700 ล้านชิ้น"
ล่าสุดในงานสัมมนา Ignite 2018 วันนี้ ไมโครซอฟท์ระบุว่าตัวเลขแตะหลัก 700 ล้านชิ้นเรียบร้อยแล้ว
ความคืบหน้าของตัวเลขผู้ใช้งาน Windows 10 ถือว่าช้าลงเรื่อยๆ แต่เดิมไมโครซอฟท์เคยตั้งเป้าผู้ใช้ที่ 1 พันล้านชิ้น แต่ภายหลังก็ยอมรับว่าเป้านี้คงทำไม่สำเร็จในปี 2018 หลัง Windows Phone/Mobile ล้มเหลว
Comments
เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเลิกใช้ Windows หลัง OS เน่าไปแล้วกู้คืนไม่ได้ แถมหาสาเหตุไม่ได้ อยู่ดี ๆ ก็เน่าไปเอง ...
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
windows เน่า แล้วลงใหม่ได้มั่ยครับ หรือไม่ได้ แบคอัพไลเซนไว้ครับ
ถ้าเป็น OEM ก็ไม่มีปัญหาครับ เพราะจะติดไปกับตัวเครื่องเลย ลงใหม่ก็ Activate ให้เลยอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็น Retail อาจต้องแจ้งขอ Deactivate ก่อนแล้วย้ายไปเครื่องอื่น
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เป็น Retail ถ้าไม่ได้ย้ายเครื่อง แค่ลงใหม่ ก็ activate เลยเหมือนกันนะครับ ไม่ต้องทำอะไรเลย กรอก key ก็ไม่ต้อง
เหมือน windows นี้จะ save key ใว้ใน main board ครับ
ฉะนั้น
ถ้าเครื่องเดิม แค่ activate ใหม่พอครับ
แต่ถ้าย้ายเครื่องและเป็น retail ต้อง deactivate ของเครื่องเก่าก่อนครับ
ลงใหม่ได้ครับ เพราะผมใช้คีย์ของมหาลัยครับ แต่ผมคงไม่กลับไปหา windows อีกแล้วครับ เพราะในรอบ 1 ปี ผมลง windows ใหม่ไป 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้คงไม่ลงอีกแล้วครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
แล้วไปใช้อะไรครับ
window xp
ใช้ ubuntu แทนครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เลิกใช้ Windows ก็เพราะ Windows 10 นี่ล่ะครับ
อัพเดทแล้วชอบพัง (จอดำ) ต้องคอยแก้ประจำ และ Shutdown ช้ามากๆจนน่ารำคาญ
ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ Linux Mint 19 โอเคมาก ดีกว่าสมัยที่เคยใช้ Ubuntu เหมือน 5 ปีที่แล้วเยอะ
โปรแกรมต่างๆก็พัฒนามาอยู่ในระดับ พอใช้ได้ล่ะ ไม่ว่าจะ GIMP RawTherapee Kdenlive
Shutdown ปุ๊บ ปิดปั๊บ เร็วจนน่าใจหายเมื่อเทียบกับ Win 10
ผมใช้มาตลอดยังไม่เคยอัพเดตแล้วเจอดำเลยนะครับ ส่วน shutdown ถ้าไม่ได้มีโปรแกรมค้างๆ ไร มันปิดไวอยู่นะครับ
ผมเจอประจำเลยครับ ไม่รู้เพราะอะไร สมัยใช้ Vista Win7 ไม่ค่อยเป็น
แต่ระบบต่างๆ Win10 ดีกว่าเยอะ เลยทนไม่ไหวครับ
ส่วนตัว Shutdown เนี้ย นาทีขึ้นตลอด อันนี้ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ผมดูแลคอมที่ออฟฟิต 20 เครื่อง ไม่เคยเจออาการอัพเดทแล้วพังเลยครับ แต่ update แล้ว shutdown ช้านี่ประจำ แต่เป็นแค่ครั้งเดียวตอน update จากนั้นก็ปิดเร็วเป็นปกติ
ปัญหา H/W ง่อยจากการอัพ จาก 7/8/8.1 ไป 10 แต่ถ้า H/W ตั้งแต่ intel gen 6th
จะไม่ประสบปัญหา (ประสบการณ์ส่วนตัว)
ปล.ผมก็โดนปริ้นทเตอร์ออฟฟิศโดยลอยแพง่อยๆอยู่เนี่ย มีแต่ไดรเวอร์ที่ตามแก้ให้ แต่พวก utility โดนแขวน
งั้นผมน่าจะปัญหานี้ล่ะครับ เพราะ Hardware เก่าแล้ว i3 gen 2 มั๊ง
ส่วนปัญหาอัพเดทแล้วพัง ลองเสริชกูเกิ้ลดู "จอดำ อัพเดท win10" มีเพียบเลยครับ ผมก็หนึ่งในคนกลุ่มนั้น
ปัญหาจอดำที่ว่านี่คือยังไงเหรอครับ?
หมายถึงหลัง install update (ไม่ใช่ upgrade ข้ามเวอร์ชั่น) แล้วบูทครื่อง
1. ค้างอยู่ที่หน้าจอ "splash screen" สีดำที่มี Windows logo สีฟ้า แล้วมีจุดวงกลมหมุนๆ อยู่ข้างล่าง? หรือ
2. ผ่าน splash screen แล้วมาค้างหน้าจอสีดำไม่มีอะไรบนหน้าจอเลย แต่ขยับ mouse ได้? หรือ
3. ผ่าน splash screen, กรอก password แล้วค่อยมาค้างที่หน้าจอสีดำ ซึ่งขยับ mouse ได้?
ปัญหาหน้าจอดำทั้ง 3 กรณี ผมยืนยันว่าไม่เกียวกับความเก่าของ CPU หรือ HDD จานหมุนเลยคัรบ
สาเหตุขึ้นอยู่ว่ามันไปตายที่ตรงไหนใน 3 กรณีข้างบนที่ว่า ปัญหามีตั้งแต่ตั้งแต่ service บางตัวถูก set start type ผิดไปจนถึงการ set permission ผิด หรือมี service บางตัวไปขวาง logonui หรือ service ตัวอื่น ระหว่าง start เรียกไม่ขึ้นหรือตาย ปัญหาต้นเหตุมีหลากหลายแล้วแต่กรณี ผมย้ำว่าการ install update ไม่ได้มีสาเหตุทำให้จอดำครับ
Mint 19 ผมบูทช้าเกือบ 35 วิ ช้ากว่า 18.3 สองเท่า
อัพ 10 ปั๊บทำเอาคอมเน่า หนีมาใช้ linux แทน เข้า windows เท่าที่จำเป็น
MacOS ก็ดีนะครับ แต่ตัองตัดขาดจากเกมแล้วเท่านั้น MacOS นี่เล่นเกมได้ไม่เยอะ แต่เอาไว้ทำงานนี่เสถียรมาก ๆ ครับ ติดใจไม่ย้ายกลับไป Windows แน่นอน
ส่วนตัวเลิกเล่นเกมได้ก็เพราะย้ายมาใช้ Mac
ราคาแพง สเปคต่ำ เล่นได้ไม่กี่เกม
จนเลิกเล่นไปเลย
เหมือนผมจะโชคดีเนาะ ตั้งแต่ใช้มาเวลาอัพเดทยังไม่เคยพังอะไรเลย
ssd 120gb ช่วยได้เยอะจริง ๆ เวลาอัพเดทก็อัพเดทไว ช่วงปิดเครื่องที่มีการอัพเดทก็อัพเดทไว :D
คอมผมรุ่น i7 gen 3 ยังเล่น windows 10 ลื่นอยู่เลยนะครับ ส่วนใหญ่ผมว่าเป็นที่ windows 10 มันไม่รับ hardware รุ่นเก่าๆหรือเปล่าครับ (พวกเก่ามากๆนี่ไม่มี Driver แล้วหรือ driver ไม่ support)
Hardware ปี 2017 - ปัจจบัน ก็ควรจะใช้ 10 นะเพราะมันดีกว่าเดิมเยอะมาก ๆ ยิ่งอัพยิ่งดี ไม่มีปัญหาไดร์เวอร์ ส่วน Hardware เก่าๆ ก็ตามแต่พิจารณา ตามมีตามเกิด
ทุกครั้งที่มีอัพเดตใหญ่ registry ที่ config ไว้หายตลอดเลย หงุดหงิดมาก
แล้วก็ชอบทำ driver vpn ต่างๆเดี้ยงอีก
ของผม SSD 120GB + 1TB HDD ช่วยมากได้จริงๆ ครับ
ทุกวันนี้เขียนโปรแกรมบน Ubuntu
ส่วนเล่นเกมส์ก็บน Windows หนียังไงก็ไม่พ้นครับ ถ้ายังติดเกมส์
ลอง Proton หรือยัง
เกมที่ใช้ MS SERVICE โปรตอนมันยังรันไม่ได้ครับ
edit : ดับเบิลคอมเมนต์ครับ
ปิดอัพเดท 3 ขั้นตอนตามนี้ครับ
https://www.windowscentral.com/how-stop-updates-installing-automatically-windows-10
แล้วชีวิตจะดีขึ้นเยอะ
ส่วนใหญ่คนเลิกใช้ window 10 เพราะ update แล้วปัญหา จุกจิกเยอะ ดับ ช้า ค้าง บลาๆ
ปิดตามนี้มา 2 ปีละ ไม่เคยเจออัพเดทเลย แฮปปี้สุดๆ
สองปีแล้วหรอมันจะหมดซัพพอร์ตเอานะครับ เรื่องความปลอดภัยกังวลหน่อยก็ดีเดี๋ยว FBI ตามถึงบ้านแบบอาจารย์ผมขนาดอยู่ไทยนะเนี่ย
ที่อัพเดตก็แก้บักและปิดช่องโหว่ ไม่อัพซักหน่อยหรอครับ 2 ปีคงมีรูโหว่หลายรูเลย
+1
ผมอัพมาตลอด ไม่เห็นจะจุกจิกอะไรเลยครับ ฝั่ง MacOS นี่อัพตามเนียนๆ ทั้งคู่
ไม่อัพตามนี่โดนแฮ็ค ไม่คุ้มเอานะครับ
อัพ บ่อย ก็ ไม่ดี แต่ ปัญหา บลาๆ ก็ เพราะไมได้ อัพ เดทนั้นละ
เจอช่องโหว่ remote execute smb แล้วจะร้อง ว้าว ว้าว ว้าว
เครื่องตอนนี้เป็น zombie ค่อยเป็นฐานยิง DDoS ให้ hacker แล้วมั้งครับ
เครื่องเดิมแต่มี format hdd + ลง window ใหม่ทุกๆปี
อย่างงี้ปลอดภัยพอมั้ย? หรือว่าไม่? ปกติเล่นคอมแค่ ดูหนัง ฟังเพลง youtube โหลดโปรแกรมฟรีจากเวป offical เท่านั้น
ที่พังจอดำ กับ รีสตาร์ทเอง นี่ใช้ HDD จานหมุนกันรึเปล่าครับ?
เมื่อก่อนเจอบ่อยมาก แต่ตั้งแต่เปลี่ยนเป็น SSD นี่ เจอค้างแค่ครั้งเดียว แต่ค้างนี่แอบคิดว่าเป็นเพราะอ่านไฟล์ขนาดใหญ่จาก HDD จานหมุนซึ่งใส่ในช่อง DVD เก่า
ส่วน macOS อยากลองนะแต่ค่าตัวแรงเหลือเกินเมื่อเทียบกับสเป็ค
อีกอย่าง จำเป็นต้องใช้ Microsoft’s office กับที่ทำงาน ไม่รู้ปัจจุบันเปิดไฟล์พวกนี้ข้าม OS ยังเพี้ยนอยู่มั้ย
ไม่เพี้ยน (เท่าที่เจอ) นะครับ
ปัญหาหลักๆ น่าจะเป็น excel บนแมคมันอืดมาก
จอดำ กับ restart เอง ... ไม่ได้มีสาเหตุมาจากใช้ HDD จานหมุนครับ
ถ้าเป็น office for mac ก็ทั้งเพี้ยนและช้าครับ ทนได้ทน...ทนไม่ได้ก็ต้องทน
(หรือไม่ก็รันผ่าน bootcamp หรือ Parallel Desktop จะช่วยได้เยอะ)
ส่วนเรื่องค่าตัว mac ยอมรับ่วาสเปคต่ำจริงครับ เทียบราคาที่จ่ายไป
(แต่ windosw ถ้าเสปค hardware ใกล้เคียงกันก็ราคาไม่หนีกันมาก สมัยที่ซื้อเมื่อ 5 ปีก่อน)
แต่จากที่ผมใช้มา 5 ปี
ผมได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าใช้ windows ...
(แต่เนื่องจากผมไม่ได้ใช้ windows จริงจังมา 5 ปีแล้วเช่นกัน
เลยไม่ขอออกความเห็นว่าปัจจุบัน windows อาจจะดีขึ้นเยอะ)
สมัยใช้ windows ใน 5 ปีอาจจะต้อง clean install ซัก 2-3 ครั้ง
แต่ใช้ mac มาไม่เคย clean install เลย เวลาอัพเดตเวอร์ชันก็อัพตามปกติผ่าน app store
ตอนนี้ล่าสุดลง High Sierra ก็ปกติสุขดี
ที่ชอบสุดคือลืมเรื่อง shut down ไปเลย ครั้งสุดท้ายน่าจะ 2-3 เดือนที่แล้ว
อ้อ อีกเรื่องปวดหัวของคนทำงาน ที่ใช้ Mac คือคนที่ต้องใช้ MS Office นี่แหล่ะครับ (โชคดี ที่ออฟฟิตผมใช้เป็น Numbers กับ Pages ที่แถมมากับเครื่อง เลยลดปัญหาตรงนี้ไป แต่ยังไงแล้ว ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ก็ไม่ครบเท่า MS Office นะครับ ตรงนี้ต้องยอมให้ MS จริง ๆ)
เครื่องผมลงตั้งแต่ Windows 10 ออกมาใหม่ ๆ ก็อัพเดตมาเรื่อย จนตอนนี้เป็นรุ่นล่าสุดก็ไม่เห็นจะเจอปัญหาอะไรนะครับ เครื่องก็ I3 ตั้งแต่ปี 2015 น่ะครับ
ไม่เคยได้ Format ไม่เคย Restore อะไรเลย ปัญหาก็มีจุกจิกเกี่ยวกับโปรแกรมเก่า (มาก ๆ) ใช้ไม่ได้บ้างเท่านั้นเอง ก็หาเวอร์ใหม่มาลง
ทำไม หลายคนเจอ ปัญหากันเยอะ จัง เล่นมาตั้งแต่ เวอร์ชั่น เทคติคอลพรีวิว ก้ยังไม่เจอ หรือ จะเป็น ผู้โ่ชคดีหนึ่งล้าน
Dark theme ของ Macintosh สวยมากกก แค่ราคาเกินเอื้อมตอนนี้ :(
คือใช้แล้วไม่เจออะไรมันก็ดีครับ ผมก็ไม่เจอ แต่คนที่เจอนี่บางดีคือมันเจอจริงๆ แบบไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยนะครับ
Win 10 ของผมเจอ Windows Update แล้วชิพการ์ดเสียงออน
บอร์ด (VIA HD Audio) ใช้ไม่ได้ไปเลย สุดท้ายต้องซื้อการ์ดแยกมาใช้
เบื่อ window เวลาใช้นานมีไฟล์ tmp กองไว้เยอะเริ่มอืด พอล้างไฟล์ใช้พวก cleaner กลับพัง ตอนนี้มาใช้ mac os กลับไปใช้ window กด shortcut แทบไม่เป็น อีกอย่างติดใจหน้าจอฝั่ง mac ด้วย : )
โปรแกรมพวก cleaner เนี่ย MS ไม่เคยแนะนำให้ใช้นะครับ ยิ่งพวกที่มี cleaner registry นี่ MS บอกเลยว่าอย่า เพราะไม่ว่าจะอ้างว่าดีแค่ไหนก็จะทำให้ระบบเสียหาย ส่วนตัวผมใช้มากสุดก็ตัวที่มากับ Windows คือ Disk cleaner เท่านั้น เครื่องก็ไม่ได้ช้าลงอะไร สำคัญคืออย่ารันโปรแกรมค้างไว้เยอะก็พอล่ะ แค่นั้นก็ลื่นหัวแตกแล้วครับ ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือทำงาน
ส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไรกับ Win10 เลย
ได้ OEM ติดมากับ DELL XPS 15 ก็ใช้มาตลอด 2 ปี ไม่มีปัญหาอะไรนะ (แต่เป็นแค่ใช้งานทั่วไป เล่นเกมบ้าง ไม่ได้ทำงานหรือมีโปรแกรมแปลกๆ มากมาย) เดี๋ยวนี้ถ้ามีปัญหา Win10 ไม่ต้องลงใหม่แล้วครับ มี Factory Reset ให้ใช้ เลือกเฉพาะ Drive C ก็กลับมาใหม่หมดจดเลย สะดวกมาก ไม่ต้องเตรียมแผ่นให้วุ่นวายแล้ว
5555 อ่านทุกความเห็น มีแต่คนชมกันเพียบเลย
งั้นขอชม Windows 10 ด้วยคนละกัน
ถ้าไม่ติดว่างานมันต้องเสียบ usb dougle และมีซอฟต์แวร์แค่วินโดว์นี่
คงย้ายหนีไปอีกคนเหมือนกัน
ยิ่งทำยิ่งห่วย บอกตรงๆ ยิ่ง build หลังสุดนี่ เกินบรรยาย
เครื่อง thinkcentre ram 16 hdd 1tb cpu ก็ i5 Gen7
ไม่ได้ขี้เหร่เลย แต่ก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ทันสังเกต
ว่าหลังจากมันบูตทุกครั้ง มันจะอ่าน HDD จน activity 100% ตลอด นานเกิน 5 นาที
แล้วระหว่างนั้นก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย รอมันไป
อ่ะแก้ปัญหาด้วยการ ไม่รีบูตบ่อย ใช้งานได้ไม่กี่วัน ก็อืดเหมือนเดิม
ram ไม่เต็ม cpu ก็ว่าง แต่พอจะเปิดงานแต่ละทีไฟ HDD วิ่งๆๆๆๆ
ครับ ทุกท่านคงมาบอกว่ามันเป็นเพราะ HDD
HDD มันมีมาก่อน windows 10 มั้ย?
ทำไมเขียนให้มันใช้ HDD ดีๆ ไม่ได้?
เคยใช้มาทุกเวอร์ชัน แต่ 10 ดูเหมือนไม่ใช่ วินโดว์
เหมือนพวกกลายพันธุ์
ปล.ยังไม่นับเรื่อง shutdown ช้าอีกนะ 555
ผมแนะนำว่าตอนที่ disk util ขึ้น 100% ลอง check ใน Task Manager สิครับว่า process/service ไหนเป็นตัวเหตุ
ตัวที่ผมเจอประจำคือ Windows Defender/ Anti-Malware service ถ้าเป็นตัวที่ว่า ทางแก้คือเปลี่ยนไปใช้ Antivirus ตัวอื่นแทน เพราะ ปัญหานี้จะเกิดทุกครั้งที่มีการ update ตัว definition ซึ่งจะไปเรียกให้ service ทำการ scan ก่อน แล้วค่อยอัพเดตตัว def ซึ่งตรงนี้มันกินทรัพยากรเครื่องมาก
ถ้าเป็น Office Click-to-Run หรือ Windows Module Installer หรือ TiWorker นั่นคือ Windows ทำการ scan หรือติดตั้ง update อยู่ ... ก็ทำไรไม่ได้นอกจากปล่อยมันไป
ตอบทั้ง 2 ท่านนะครับ
HDD ทำงาน 100% เนี่ย แอนตี้มัลแวลมันสแกนครับ ถ้าปิดเครื่อง หรือไม่ปล่อยให้มันสแกนนาน ๆ เนี่ย พอมันสแกนทีก็วูบเลยล่ะครับ อันนี้ผมติดตั้งวินโดวส์ให้ลูกค้าเจอบ่อยถ้าเอาวินโดวส์ตัวเก่าหน่อยลงให้นี่ยิ่งหนัก ทั้งสแกน ทั้งอัพเดตไปพร้อมกัน ทั้งวินโดวส์ทั้งแอพอื่น ๆ ที่ติดตั้งอยู่
ส่วนใหญ่วิธีแก้คือ ตั้งให้มันสแกนตอนดึก ๆ ซะ พอมันสแกนทุกวัน จะสแกนได้เร็วขึ้น ไม่เรียกใช้ฮาร์ดดิสต์เต็ม 100 แต่อย่าไปปิดการสแกนและอัพเดตเด็ดขาด ไม่งั้นยิ่งหนักเวลาเปิดการทำงาน อีกอย่างอย่าไปใช้แอนตี้ไวรัสตัวอื่นใช้ตัวที่มากับวินโดวส์อย่างเดียวจบ
แค่นั้นการใช้งานก็ราบรื่นไม่เจอปัญหาแล้วครับ แค่รู้ว่าวินโดวส์มันทำงานยังไง วิธีใช้มันก็ง่าย
เอ้ามีคนมาแนะนำให้ใช้แอนตี้ไวรัสตัวอื่นซะงั้น เชื่อเหอะครับ ยิ่งหนักอย่าเลย ใช้ตัวของมันแหละ ให้มันสแกนเก็บข้อมูลไว้ทุกวัน หลัง ๆ ไปมันทำงานเนี่ยแทบไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ
มันไม่เกี่ยวกับการปล่อยให้มัน scan เก็บข้อมูลทุกวันครับ ต่อให้ scan ทุกวัน ถ้ามี definition ใหม่มาอัพเดตทุกวันมันก็ 100% ตลอดทุกวันอยู่ดีครับ ปัญหามันอยู่ที่ทุกครั้งที่มีการอัพเดพ def มันจะ MsMpEng จะถูกเรียกขึ้นมาทำการ scan ทุกครั้ง
ปัญหานี้แก้ได้โดย 2 วิธี คือเปลี่ยนไปใช้ SSD ไม่ก็เปลี่ยน AV แล้ว disable Windows Defender ซะ
เกมเกิมเหรอ ดูผ่านยูทูปแก้ขัดได้
ผมนี่เจอปัญหาแปลกๆ คือ เวลา connect/disconnect อุปกรณ์ใดๆ ผ่าน usb เกม Dota2 จะค้างทันที
เปลี่ยน hardware มาแทบทุกชิ้นละ ลง windows ใหม่พร้อมกับเปลี่ยนมาลง Dota2 ใน M.2 ssd แล้วก็ยังจะเป็นอยู่เลย
มีท่านใดมีวิธีแก้ไหมครับ
ผมเคยเป็นครับอาการคล้าย ๆกันเล่น ๆอยู่ จะดึงสายหูฟังออกจะใช้ลำโพง ดึงออกแล้วเกมจะค้างทันทีไม่รู้เป็นอะไร เหมือนมันเป็นที่เกมส์เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย
Windows 10 ผมมีปัญหาอย่างเดียวคือไม่สามารถ backup app ใน windows store ได้ ถ้าลงใหม่ผมต้องลงเกม Forza ใหม่ด้วย แต่มันมีขนาด 100GB OMG!!!
โชคดีจัง Notebook ผม ASUS N56 ใช้มาตั้งแต่ 2013 พอเค้าเปิดให้ Up Windows 10 ฟรี ผมลังเล แต่ก็ Up และตอนนี้ ยังไม่เคย Format เลยแถมเปิดเครื่องตลอด ทำงานเสร็จ แค่พับจอเพื่ Sleep เปิดจอมาทำงานต่อ สักเดือนจะ Shutdown ที บางทีมัน Update กลางคืน แต่กลับว่าไม่ได้กวนอะไร ป่านนี้ยังใช้อยู่เลย เครื่องที่ผมกำลังพิมพ์ Comment อยู๋เนี่ยแหละ เสียอย่างเดียว ใช้ Docker บน Windows 10 Home ไม่ได้เป็นปรกติ ต้องหา Pro มาลง และด้วยเครื่องก็เก่าแล้วด้วย Spect และ ตกจรขอบบิ่นน๊อตแตกฝาบุบ ตกมาจะสิบครั้งเพราะต้องพาเดินทางไปด้วย แต่มันก็ยังใช้งานได้อยู่ เสียตรง Driver บางตัวที่มีให้ ใช้ไม่ได้เพราะ Board มันเก่า เรื่อง Boot ช้า Shutdown ช้าบอกเลย แทบบบบบ ไม่เคยเจอ เมื่อไรที่ผม Shutdown มันก็แทบจะปิดเลย และเมื่อกดปุ่ม Start มันก็แทบจะติดขึ้นมาเลย นอกจากบางครั้งที่ค้างหน้า Bios บ้าง แต่นานๆทีและไม่นานพอผ่านหน้า Bios มาได้ก็เข้า Windows เลย เท่าๆที่อ่านมา ผมนี้โคตร Super โชคดีเลยที่แทบไม่เคยเจอปัญหา เรื่องเล่น Game นี่เครื่องนี้เคยเล่น Starcraft + Counter ที่เปิดพร้อมกันทั้ง 2 Game ด้วยนะครับ เล่นได้ ก็ ทั้งทำงาน เล่น Game ในเครื่องเดียวกัน ผมก็ไม่เห็นเหตุผลว่า มันไม่ดีตรงไหนนะ
เรื่อง Format จริงๆผมเคยทำตอนลง Windows 10 ใหม่ๆแหละครับ อยากลองเล่น Recovery ที่มันมี Check Point มาให้ดูว่ามัน OK มัย สรุปมันทำได้ แล้วก็เลิก Format มันแล้วแล้วก็ใช้มาจนปัจจุบัน อยากได้ Windows10 Pro แต่ไม่มีตังซื้อ
คุณอาจจะไม่ใช่คนโชคดีครับ แต่พวกเขาเหล่านั้นอาจจะเป็นคนโชคร้ายครับ เพราะคนใช้เยอะก็มีโอกาสเจอบัคเยอะ พอมาบ่นก็เลยดูเยอะ แต่ Linux กับ Mac คนใช้น้อยคนบ่นก็เลยน้อย ก็เลยเหมือนไม่ค่อยมีปัญหา อย่างผมใช้ Mac ก็โชคร้ายครับเจอ Silver screen มาก่อน(คล้าย Blue screen) ถ้า Windows มันห่วยจนเจอปัญหากันเยอะมาก Mac คงแซงไปได้นานแล้ว
ถึง Windows มันห่วย (กล่าวอ้างคำตามคอมเม้นบนครับ โดยส่วนตัว ไม่คิดว่า Windows ห่วยครับ) ยังไง ยอดคนใช้ MacOS ก็ไม่มีทางแซงครับ กลุ่มเป้าหมายค่อนข้างต่างครับ ถ้าสเกลใหญ่หน่อย ก็ดู iPhone กับ Android Phone ครับ ยังไงประชากรเกิน 75% โดยการประมาณการของผมเอง ก็ไม่พร้อมและ/หรือ ไม่สามารถ มาใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้ครับ
ผมอ้างอิงถึงกรอบความสามารถ และความเต็มใจในการจ่ายเป็นหลักครับ
โชคดีไม่ค่อยเจอปัญหา จำเป็นต้องใช้วินโดวส์เพราะยังไง office ใช้บนวินโดวส์มันดีกว่าใช้บน OS อื่น (คอมเป็น i7 6700HQ ใช้ SSD)
การใช้ Windows 10 + Office 365 นี่ก็เหมือนเหยื่อหรือหนูทดลองดีๆนี่แหละสำหรับองค์กรแล้วไม่แนะนำเลย
ใช้มาทุกเวอร์ชั่นตั้งแต่ Win 3.1 พูดได้เต็มปากว่า 10 นี่ดีสุดแล้ว
แต่มันก็เหมาะกับ hardware ใหม่ๆ จริงๆ แหละครับ (ผมใช้ Gen 6)