หลายประเทศเล็งที่จะเก็บภาษีจากบริษัทไอทีอย่าง Google Apple เพราะทำรายได้มหาศาลในประเทศต่างๆ ล่าสุดคือเกาหลีใต้ก็กำลังมองหาช่องทางเก็บภาษีบริษัทเหล่านี้ด้วย โดย Korea Times รายงานว่า กระทรวงเศรษฐกิจหารือกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาถึงนโยบายภาษีใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก
Ahn Jeon-sang จากพรรคเดโมแครตในเกาหลีบอกว่า ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน สถานที่ประกอบธุรกิจของบริษัทไอทีต่างประเทศในเกาหลีไม่ได้ถือว่าเป็นสำนักงานของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งอาจต้องจำกัดความของสถานที่ประกอบการใหม่
ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีในประเทศอย่าง Naver Kakao ก็วิจารณ์เป็นปีว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่แฟร์เพราะบริษัทคู่แข่งทำรายได้มหาศาล แต่ไม่แม้แต่จะต้องจ่ายภาษี Amazon เป็นหนึ่งในบริษัทไอทีระดับโลกที่ตั้งเป้าหมายตลาดเกาหลีอย่างจริงจังและยังทำนโยบายส่งสินค้าฟรีในเกาหลีด้วย
อย่างไรก็ตาม Google ในเกาหลีก็ยืนยันว่า Google ปฏิบัติตามกฎหมายและจ่ายภาษีทั้งหมดในเกาหลี ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้และกำไรก็รายงานไปยังหน่วยงานด้านภาษีของเกาหลีอยู่เสมอ
ภาพจาก Google
ที่มา - Korea Times
Comments
ในไทยก็เก็บพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้
ผมว่าทุกรัฐบาลในโลกต้องร่วมมือกัน ตอนนี้ปัญหาเป็นช่องโหว่เรื่องภาษีของบริษัทอินเตอร์เน็ทเหล่านี้ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศไปโดยรัฐแทบไม่ได้อะไรเลย เท่าที่ติดตามยังไม่เห็นมีโครงสร้างการจัดเก็บแบบไหนบนโลกที่สามารถจัดการเรื่องนี้ดีเท่าที่ควร
โดยส่วนตัวกลุ่ม EU น่าจะเป็นกลุ่มที่ดูมีพลังมากที่สุด เพราะเห็นปกป้องพลเมืองชาว EU ได้ดีมาก
ยากเพราะมันเลี่ยงไปรับรู้รายได้ที่อื่นกันทั้งนั้นเลย
korea..ทำได้อยู่แล้ว เพราะพื้นฐานคน
เป็นรายได้ของบริษัทใน US ก็เลยจ่ายเป็นภาษีเข้า US หมด แถมถ้าเอาไป Operate ที่อื่นจะโดน FATCA อีกเด้งนึ
ง
ตาม comment ใน facebook นี่มีแต่คนด่ารัฐบาลกันเต็มเรื่องเลยเก็บภาษี IT แต่หารู้ไม่ว่ารัฐกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเงินมันรั่วไหลมหาศาลอยู่นานแล้วต่างหาก
ความเจริญกับการศึกษามันเป็นของคู่กันจริงๆ
เท่าที่ตามข่าวมาไทยทำสองเรื่องครับ ไปเก็บภาษีพร้อมกับกฎหมายควบคุม คล้ายกับควบคุมสื่อในไทย ก็เลยด่าลากกันมา ถ้าพูดเรื่องการเก็บภาษีต้องทำความเข้าใจข้อกฎหมายดีๆว่าเก็บภาษียังไงเพราะผลกระทบมันวิ่งย้อนกลับมาที่คนเสียภาษีทางอ้อมอย่างเราๆครับ เพราะภาษีเป็นต้นทุน ถ้าจะกำไรภาษีนั้นก็จะต้องหาทางทำให้ผู้บริโภคเป็นคนจ่าย...
ต้องทำจริงจังแล้วครับ
แต่ไม่ใช้แค่ บ.us ของไทยตั้ง บ.จีนด้วย ไม่งั้นเขาเข้ามาหาเงินกลับประเทศไม่ได้เอาไรให้เราเลย
สุดท้ายเก็บภาษีพวกนี้ก็คือการเก็บภาษีผู้บริโภคประเทศตัวเองอยู่ดี
ถ้าเราผลิตของสู้กับคนอื่นที่ต้องผลิตและส่งมาที่เราไม่ได้ เราควรต้องหาอย่างอื่นทำไหม
ถ้าอยากได้ภาษี คนใช้ภาษีประเทศที่บริษัท IT ทั้งในและนอกอยากมาทำสำนักงาน Datacenter หรือจ้างคนดีกว่าไหม
ในทางกลับกันของกรณีเกาหลี ทำไมไม่ใช้วิธีเดียวกันในการหากินกับประเทศอื่นบ้างละ
เกาหลีก็น่าจะมีกำลังไม่น้อยนะ
เรื่องภาษีมันมีทั้งเรื่องคนเก็บภาษี คนถูกเก็บภาษี และคนที่ใช้ภาษี ประเมินรวมๆแล้วก็เลยไม่ค่อยมีความเห็นที่จะให้เปลี่ยนแปลงอะไรสักเท่าไหร่
ผทเห็นว่าเราควรต้องเก็บภาษีให้เท่าเทียมครับ ไม่งั้นคนที่จะทำในประเทศยิ่งแข่งไม่ได้ เหมือนสินค้านำเข้าก็มีภาษีนำเข้า สินค้าบริการก็มี vat แต่ถ้ามีคนจะทำในประเทศก็ต้องส่งเสริมให้เพราะมีรายได้จาก vat ถึงแม้บางส่วนจะถูกผลักมาสู่บริโภค แต่ถ้ามีคู่แข่งในและนอกมาพอ ก็ต้องมีการแข่งขันทำให้ผู้บริโภครับภาระน้อยลง
ผมกำลังคิดอยู่ว่า ไอ้กฎหมาย US เนี่ย เขาจะมองว่ารายได้เกิดในประเทศเขา แล้วก็จะหักภาษีจากตรงนั้น ในขณะที่ประเทศอื่นบอกว่าไม่ใช่ มันเป็นเงินที่คนประเทศเขาจ่าย ก็จะหักภาษีอีกรอบ กลายเป็น double tax หรือเปล่า ?
ถ้าตามการ์ตูนก็ต้องบอกว่าถึงเวลาที่ต้องมีรัฐบาลโลก คอยจัดเก็บภาษีรายได้ที่เกิดบนอินเทอร์เน็ตทั้งหมด 555
เอาจริงๆก็ต้องบอกว่ายากมาก ถ้าจะใช้มาตรการทางบัญชีบังคับให้แยกรายได้ออกตามแหล่งที่มา(ประเทศ) สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพราะมันมีองค์ประกอบหลายอย่างเยอะมาก
อาจจะต้องใช้วิธีการทางอ้อม แต่ทุกประเทศก็ต้องทำเหมือนกัน มันถึงจะสำเร็จ
แต่กรณีแบบนี้ ประเทศต่างๆก็เสียรายได้จากภาษีไปเยอะจริงๆล่ะครับ ภาครัฐต้องเร่งหาทางจัดเก็บรายได้จากตรงนี้โดยด่วน
..: เรื่อยไป
จะเก็บภาษีประเทศต้นทาง นั้นหมายความว่าประเทศปลายทางจะต้องขาดรายได้จากภาษีที่เคยได้ไปด้วย ทรัปจะยอมเหรอ