Tags:
Node Thumbnail

ปักกิ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเช่นเดียวกับเมืองใหญ่ในหลายประเทศ ผู้คนที่เดินทางไปไหนมาไหนในแต่ละวันนั้นมีมากมายมหาศาล รวมทั้งการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน แม้รถไฟจะวิ่งเร็วเพียงใดแต่ด้วยปริมาณคนใช้บริการที่มีมาก กว่าที่คนคนหนึ่งจะเดินทางไปถึงจุดหมายเขาอาจต้องเสียเวลากับการเข้าคิวรอซื้อตั๋วหรือแตะบัตรผ่านสถานีเพื่อขึ้นรถไฟ ด้วยเหตุนี้ผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินของปักกิ่งจึงมีแผนจะนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าและการสแกนลายนิ้วมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหา

เพื่อลดเวลาที่ผู้โดยสารต้องรอในระหว่างก่อนขึ้นรถไฟและหลังลงจากรถไฟ ทางการจีนจึงมีแผนจะติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับใบหน้าและเครื่องสแกนฝ่ามือเพื่อให้ผู้โดยสารเข้าและออกจากสถานีได้รวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาติดต่อขอแลกเหรียญ ไม่ต้องมัวเข้าคิวรอหยอดเหรียญกับเครื่องออกบัตรโดยสาร และก็ไม่ต้องเข้าแถวอีกครั้งหนึ่งเพื่อรอเสียบบัตรเข้าเครื่องสแกนก่อนเดินเข้าพื้นที่ชานชาลา

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการเก็บเงินค่าโดยสาร แต่คาดว่าระบบสแกนใบหน้าและสแกนฝ่ามือนี้จะเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานเพื่อทำการตัดเงินค่าโดยสารแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ระบบสแกนใบหน้าและสแกนฝ่ามือไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีใหม่เอี่ยมในประเทศจีน ตัวอย่างการใช้งานระบบสแกนใบหน้านั้นมีใช้อยู่ก่อนแล้วบริเวณด่านระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และเกาะฮ่องกงซึ่งจะใช้ควบคู่กับเรื่องสแกนลายนิ้วมือ ในขณะที่เครื่องสแกนฝ่ามือก็มีการใช้งานกับรถไฟในเซี่ยงไฮ้มาบ้างแล้ว โดยจำกัดเฉพาะผู้โดยสารกลุ่มพิเศษ เช่น ทหารผ่านศึก หรือผู้พิการและทุพพลภาพ

อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนการติดตั้งระบบตรวจจับใบหน้าและระบบสแกนฝ่ามือสำหรับผู้โดยสารรถไฟใต้ดินนี้ ความเห็นฝ่ายหนึ่งมองว่าทุกวันนี้ทางการจีนกำลังริดรอนความเป็นส่วนตัวของประชาชนตนเองลงไปในทุกขณะ ในขณะที่อีกส่วนเกรงว่าหากระบบหละหลวมมีช่องโหว่ก็อาจทำให้ข้อมูลอัตลักษณ์เชิงชีวภาพเหล่านี้รั่วไหลออกสู่ภายนอกและถูกผู้ไม่หวังดีนำเอาไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบได้

อีกด้านหนึ่งก็มีความเห็นในแง่การใช้งานว่าประสบการณ์ใช้งานระบบสแกนใบหน้าและสแกนฝ่ามือนั้นอาจไม่ได้ช่วยลดเวลาที่ผู้โดยสารต้องเสียไป เพราะยกตัวอย่างผู้สูงอายุหลายคนซึ่งไม่ค่อยคุ้นชินกับเทคโนโลยีสมัยใหม่มากนักก็อาจไม่รู้ว่าต้องใช้เครื่องอย่างไรจนทำให้ต้องเสียเวลาผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่ในคิวเช่นเดียวกัน

สำหรับรถไฟใต้ดินของปักกิ่งนั้นเริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 1965 แต่เริ่มมีการปรับปรุงบริการและขยายเส้นทางแบบก้าวกระโดดในช่วงปี 2008 ซึ่งปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ทั้งนี้ในปัจจุบันมีรถไฟวิ่งให้บริการ 23 เส้นทาง มีผู้ใช้บริการมากกว่า 10 ล้านคนต่อวัน โดยก่อนหน้านี้คิดอัตราค่าโดยสารทุกเส้นทาง (ยกเว้นไปสนามบิน) ทุกระยะทางเท่ากันหมดด้วยราคา 2 หยวน (ประมาณ 10 บาท) ก่อนที่จะปรับวิธีคิดค่าโดยสารในปี 2014 มาเป็นระบบคิดตามระยะทาง โดยปัจจุบันนี้ค่าโดยสารต่ำสุดของการเดินทางเริ่มต้นที่ 3 หยวน (ประมาณ 15 บาท) ในเส้นทางไม่เกิน 6 กิโลเมตร และค่าเดินทางสูงสุดต่อครั้งอยู่ที่ 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) สำหรับการเดินทางรวมระยะทาง 92-112 กิโลเมตร

ที่มา - Abacus

No Descriptionภาพจาก Wikimedia

Get latest news from Blognone

Comments

By: errin on 7 July 2018 - 12:17 #1059280

เห็นข่าวนี้แล้วผมเลยสงสัยว่านอกจาก BTS แล้วยังมีรถไฟฟ้าในเมืองหลวงหรือเมืองธุรกิจประเทศไหนบ้างที่ต้องต่อคิวแลกเหรียญเพื่อไปต่อคิวหยอดตู้

By: john dick
iPhone
on 7 July 2018 - 12:28 #1059282 Reply to:1059280
john dick's picture

ตามหลักแล้ว ต้องเป็นตู้ที่ใส่ได้ทั้งเหรียญและธนบัตร แต่ BTS เอาง่าย มีแต่ตู้ที่เป็นหยอดเหรียญซะส่วนใหญ่

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 7 July 2018 - 15:39 #1059307 Reply to:1059282

เอาจริงๆ สิ่งที่ควรทำมากกว่า คือผลักให้คนไปใช้บัตรเติมเงินให้มากที่สุดครับ อย่างของญี่ปุ่น ถ้าเดินทางด้วย Suica จะราคาถูกกว่า
ของบ้านเรานอกจากไม่ถูกกว่า ยังเอาเปรียบทุกทาง เช่นบัตรรายเดือนทั้งกำหนดจำนวนเที่ยว และกำหนดวันไว้ด้วย อันไหนหมดก่อนก็ต้องเติมเงิน ความคุ้มไม่เหลือ เพราะเดินทางใกล้ๆ ก็โดนหักเที่ยวเท่ากัน (เข้าใจว่า mrt ก็จะเปลี่ยนเป็นระบบนี้ด้วยหรือเปล่า? จากเดิมจำกัดแค่จำนวนวันเท่านั้น)

แล้วการเติมเงินก็ควรทำให้ง่ายๆ ของญี่ปุ่นเขาเติมผ่านตู้เดียวกับที่ซื้อตั๋ว แถมยังมีเติมใน app อีก บ้านเราต้องเติมกับพนักงานเท่านั้น

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 7 July 2018 - 23:32 #1059380 Reply to:1059307
hisoft's picture

สายสีม่วงเติมผ่านตู้ครับ ผมนี่แทบไม่เจอหน้าพนักงาน MRT เลยตั้งแต่สายสีม่วงเปิด
แต่ถ้าตู้จะช่วยกรุณารับบัตรเครดิตหรือเดบิตสักหน่อยนะ

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 8 July 2018 - 07:16 #1059400 Reply to:1059307

สมัยก่อน MRT จะมีตั๋วเหมารายเดือน ต่อมาเป็นจำกัดจำนวนเที่ยวและใข้ได้ 30 วันแบบ BTS แต่ปัจจุบันยกเลิกทั้งหมดแล้ว เหลือแต่ตั๋วราครปกติแสนแพง ยังสงสัยอยู่ว่าท่านที่ใช้เป็นประจำระยะทางไกลๆ เสียค่าใช้จ่ายอะไรกันไหวอย่างไร BTS บัตรเที่ยวอาจไม่ดีที่สุด แต่ยังพอมีทางเลือกที่ประหยัดลง

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 8 July 2018 - 14:11 #1059426 Reply to:1059400

ผมจำได้ว่าขึ้นเมื่อ 3-4 ปีก่อน mrt ยังมีตั๋วรายเดือนไม่จำกัดเที่ยวอยู่เลย ตอนหลังไม่ได้ใช้ mrt บ่อยๆ เลยเปลี่ยนเป็นเติมเงิน เคยคุ้นๆ ว่าจะเปลี่ยนเป็นบัตรจำกัดเที่ยว เพิ่งรู้ว่ายกเลิกไปเลย...

เปลี่ยนเร็วขนาดนี้ ไม่รู้ว่าก่อนเปลี่ยน คำนวณรายได้กันบ้างหรือเปล่า
ตั๋วเดือนนี่มันรายได้แบบ steady เลยนะ ไม่รู้ยกเลิกได้ไง
จริงๆน่าพัฒนาเป็นหักบัตรเครดิตอัตโนมัติด้วยซ้ำ

By: IDCET
Contributor
on 8 July 2018 - 15:50 #1059435 Reply to:1059400

ผลของการให้คนงี่เง่ามาบริหารจัดการระบบขนส่งทั้ง MRT และ BTS เน้นแต่ผลกำไร ไม่สนคุณภาพการให้บริการหรือผู้ใช้งานเลย แถมเอาแต่ปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง ที่ทำให้บัตรแมงมุมใช้กับ BTS ไม่ได้

ผู้บริหารก็มีแต่ทัศนคติห่วยแตก พูดอะไรก็ได้ เพราะเป็นธุรกิจเบ็ดเสร็จ ไม่มีคู่แข่งเลย แม้แต่บริการอื่นที่มีคู่แข่ง ยังห่วยเลย อย่าง ขสมก, วิน, แท็กซี่ และรถตู้ ก็ห่วยหมด ผู้ใช้ต้องหาทางรอดเอาเอง หรือหันไปซื้อรถ ทั้งๆ ที่มีความรนรงค์ให้ใช้บริการขนส่งมวลชล เพราะความห่วยที่บอกมาตอนต้น ต่อให้สร้างรถไปหลายสาย แต่ถ้าบริการยังห่วยและไร้คู่แข่งแบบนี้ก็ไร้อนาคตครับ เศร้าใจจริงๆ ครับ


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: rattananen
AndroidWindows
on 9 July 2018 - 15:19 #1059624 Reply to:1059400

ผมใช้งาน MRT มา 10 กว่าปีรู้แค่เขาขึ้นค่าโดยสารแค่ครั้งเดียว (ไม่แน่ใจ) สถานีละ 1-2 บาทนี่ล่ะครับ
แต่แค่นี้มันน้อยมากเมื่อเทียบกับ BTS
และปัญหารถ delay นี้ MRT น้อยลงมากๆ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ฉะนั้นจะยกเลิกบัตรรายเดือนไปผมก็ยังยอมรับได้ เมื่อเทียบกับการให้บริการนะครับ (ผมนั้งรถไปทำงาน หัวลำโพง-ห้วยขวาง)

By: zda98
Windows Phone
on 7 July 2018 - 17:17 #1059320

ราคาถูกมาก 50 บาท

By: Gorillagang111 on 7 July 2018 - 18:14 #1059330

wow ไทยยังร้อง เอามาใช้ที่ไทย จะใช้บริการทุกวันเลยล่ะ 555

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 7 July 2018 - 19:01 #1059345
panurat2000's picture

หรือแตะบัตรผ่านสถานทีเพื่อขึ้นรถไฟ

สถานที => สถานที่

และการแสกนลายนิ้วมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหา

แสกน => สแกน

มีหลายคนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนการติดตั้งระบบตรวจตจับใบหน้า

ตรวจตจับ => ตรวจจับ

ก็อาจทำให้ข้อมูลอัตตลักษณ์เชิงชีวภาพ

อัตตลักษณ์ => อัตลักษณ์

By: nnutshu
iPhoneAndroid
on 7 July 2018 - 21:09 #1059364

ค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในปักกิ่งสูงสุดน่าจะไม่เกิน 5 หยวน(25บาท) นะครับ. ไม่รวมกับสาย airport express ที่ปกติคิดประมาณ 5 หยวน ในส่วนของการจ่ายเงิน ตอนนี้ที่ปักกิ่งนอกจากบัตรโดยสารปกติ ก็จะมี QR code ผ่านแอพลิเคชั่นและก็ Apple pay ครับที่ใช้ได้ ในส่วนของ Face Recognition อาจทำร่วมกับ Alipay ที่ปัจจุบันคนจีนบันทึกใบหน้าลงใน Alipay ได้แล้วครับ

By: Hoo
AndroidWindows
on 7 July 2018 - 23:54 #1059383 Reply to:1059364

ปี 2008 ก่อน โอลิมปิก
เส้นแดง-น้ำเงิน 2 หยวนเอง
พอมีเส้นใหม่ๆเลยแพงขึ้น

By: 7elven
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 8 July 2018 - 02:05 #1059396 Reply to:1059383

ห๊ะ 2008 แค่ 10 บาทไทย ขึ้นรถเมล์แอร์ในเมืองบางกอกยังไม่ได้เลย

By: Hoo
AndroidWindows
on 8 July 2018 - 20:23 #1059451 Reply to:1059396

เส้น แดง-น้ำเงิน สมัยนั้น ไม่มีแอร์ ครับ
แถมตู้เก่ามาก เข้าใจว่าตั้งแต่สมัย 1950-1960
แต่ไม่สกปรก การบำรุงรักษาจัดว่าดีทั้ง รถ และ สถานี
ผ่านมาหลายปี ไม่รู้เปลี่ยนหรือยัง

แถม ขายตั๋วเป็นกระดาษฉีกด้วย manual สุดๆ
แล้วรีบติดตั้งระบบบัตรแตะตอนก่อน โอลิมปิก
ซึ่งแน่นอน บัตรเค้าใช้ได้ทั้ง รถเมล์+รถไฟใต้ดิน
(คิดแล้วเคือง BTS)

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 July 2018 - 21:00 #1059458 Reply to:1059451
hisoft's picture

จนถึงตอนนี้แรบบิทก็ยังคงไอศกรีมโคนละบาท ลงทุนขนาดนี้คิดว่าจะยอมเหรอครับ?

จริงๆ ต่อให้ใช้บัตรข้ามระบบกันได้ ถ้าบัตรไหนมีสิทธิพิเศษเยอะกว่าคนก็น่าจะเลือกบัตรเจ้านั้นมากกว่าอยู่แล้วหรือเปล่า หรือเอาเข้าจริงข้อเสนอมันเป็นว่าให้ใช้บัตรแมงมุมเข้าระบบ BTS ได้แต่ไม่ยอมให้บัตร Rabbit ไปสแกนกับเจ้าอื่นที่ใช้แมงมุม?

By: IDCET
Contributor
on 8 July 2018 - 21:49 #1059463 Reply to:1059458

ผมว่าแค่แนวคิดบัตรเดียวใช้ได้ทั้งระบบขนส่งมวลชน คนส่วนใหญ่ก็อยากใช้กันอยู่แล้วครับ ไม่ต้องใช้โปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษเลยครับ คนก็มาใช้งานเอง

ส่วน BTS ก็มีแนวคิดดี อย่างบัตร Rabbit แต่การนำไปปฏิบัตินั้นมีปัญหาและผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ อันนี้ก็ต้องโทษ BTS ที่ไม่ออกกฏหรือออกแนวทางที่ชัดเจนกับผู้ใช้งานบัตรอย่างรัดกุมเองนะครับ ถึงกลายเป็นปัญหาอย่างทุกวันนี้

จริงๆ ถ้าสามารถทำให้ Rabbit และ Mangmoom ใช้งานได้ทุกระบบ ก็จะเกิดการแข่งขันด้วย เป็นผลดีทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการครับ แต่ก็อย่างที่เห็น BTS เลือกรักษาผลประโยชน์ของตนเองแลกกับการโดนประชาชนด่าและไม่พัฒนาระบบให้ทันสมัย ไม่ทำอะไรกับระบบเลย เอาแต่กินรายได้ไปวันๆ แบบผูกขาด

อย่างเรื่องแทนที่ระบบจ่ายบัตรด้วยเหรียญเป็นระบบรวมที่รองรับทั้งเหรียญ, ธนบัตร และบัตรเครดิต/เดบิต ของง่ายๆ และสำคัญกลับไม่ทำ มีแค่บางสถานีที่รองรับออกบัตรด้วยธนบัตร แต่มีแค่เครื่องเดียวด้วย คนต่อคิวยาว ส่วนบัตรรายเดือน รายสัปดาห์ก็ใช่ว่าจะถูก มีข้อจำกัดก็เยอะ แถมไม่มีบัตรไม่จำกัดรอบใช้งานรายเดือนหรือรายสัปดาห์เลยด้วยวันด้วย เทียบกัยของต่างประเทศแล้วยังถูกกว่า แถมครอบคลุมทุกสายด้วย มันใช่ไหมครับ แค่จรรยาบันในการบริหารก็สอบตกแล้ว ขายหน้าตัวเองบ้างไหม ไม่สำนึกหรือเรียนรู้อะไรเลยด้วย


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 July 2018 - 22:11 #1059477 Reply to:1059463
hisoft's picture

แต่ก็อย่างที่เห็น BTS เลือกรักษาผลประโยชน์ของตนเองแลกกับการโดนประชาชนด่าและไม่พัฒนาระบบให้ทันสมัย ไม่ทำอะไรกับระบบเลย เอาแต่กินรายได้ไปวันๆ แบบผูกขาด

ผมจำได้ว่าญี่ปุ่นเองก็ต้องโดนทางการสั่งลงมานะครับถึงจะยอม ผู้ให้บริการก็คงไม่ยอมง่ายๆ กันอยู่แล้ว

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 8 July 2018 - 21:47 #1059462 Reply to:1059364
ตะโร่งโต้ง's picture

ผมเอาข้อมูลมาจาก Wikipedia น่ะครับ
พยายามเข้าเว็บของ Beijing Subway เพื่อจะลองกดดูค่าโดยสารแล้ว แต่พอเข้าหน้าเว็บมันบอกว่าโหลด XML ไม่ได้


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: nzgul on 7 July 2018 - 21:48 #1059365

น่าเสียดายมากเลยที่บ้านเราให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นเป็นหลัก (ก็แหง ธุรกิจนี่นะ)
แต่เมื่อมันเป็นปัจจัยพื้นฐาน ขนส่งสาธารณะ ราคามันน่าจะถูกกว่านี้ ในเมืองใหญ่ๆ มีแต่จะผลักดันให้ใช้ขนส่งสาธารณะให้ใช้งานได้ง่าย

บ้านเรานั่งรถไฟฟ้า ทั้งแพงทั้งพัง
นั่งหลายคนเอารถไปหลายๆครั้งยังถูกซะกว่า

By: 7
Android
on 7 July 2018 - 22:21 #1059373
7's picture

อย่างกับหนังไมนอรีตี้รีพอร์ท

By: IDCET
Contributor
on 7 July 2018 - 23:14 #1059379

น่าจะเอามาใช้กับระบบขนส่งในบ้านเราจริงๆ เห็น BTS แล้วอนาถจิต


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: akira on 8 July 2018 - 08:33 #1059402

มันดูแแปลกๆ อยู่นะ เป็นผมเนี่ยทำระบบติดตามผู้ต้องสงสัย ทั้งคนในประเทศและต่างประเทศร่วมไปด้วยเลย เชื่อมโยงสนามบินด้วย กับเครือข่ายยกล้องวงจรปิด รู้หมดว่าไปไหนมาบ้างแบบเนียนๆ