Tags:
Node Thumbnail

หลังจากที่ Valve ได้นำ Dota Pro Circuit (DPC) หรือ ระบบแข่งขันแบบฤดูกาล เพื่อเก็บสะสมคะแนนหาทีมเชิญสำหรับงาน The International มาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2017-2018 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับทั้งด้านบวกและด้านลบจากแฟนและบุคลากรในวงการ Dota 2 อย่างมากมาย

ล่าสุด Valve ได้ประกาศรายละเอียดสำหรับฤดูกาล 2018-2019 ที่กำลังจะเริ่มในวันที่ 15 กันยายน 2018 โดยยกเครื่องกติกาหลายอย่าง ทั้งเรื่องผู้เล่น การเก็บคะแนน สิทธิ์การทำทีม และ การแข่งขัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

ทีมเป็นใหญ่ ไม่ล็อกผู้เล่น
ในฤดูกาลใหม่นี้จะยกเลิกระบบการล็อกตัวผู้เล่นและบทลงโทษในการเปลี่ยนตัวผู้เล่นระหว่างฤดูกาลที่จะทำให้ไม่ได้คะแนนจากการแข่งขันใน DPC พร้อมเปลี่ยนมาใช้ระบบใหม่ ซึ่งคะแนน Qualifying Points จากแต่เดิมจะอยู่ที่ตัว “ผู้เล่น” แต่ครั้งนี้จะอยู่กับ “ทีม” แทน

ทีมจะต้องลงทะเบียนผู้เล่น 5 คน โดยสามารถเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นได้ตลอดฤดูกาล โดยจะเสียคะแนน 20% ของทีมต่อผู้เล่น 1 คนที่ออกจากทีมไป และการเพิ่มผู้เล่นใหม่เข้ามาในทีมจะไม่ได้คะแนนเพิ่มแต่อย่างใด
หากทีมลงแข่งขันในรายการของ DPC โดยไม่ได้ใช้ผู้เล่นหลักทั้ง 5 คนที่ลงทะเบียนเอาไว้ คะแนนที่ได้จากรายการนั้นจะถูกหักไป 40%

การแข่งขันในรอบคัดเลือกของรายการระดับ Minor หรือ Major ทีมจะต้องใช้ผู้เล่นอย่างน้อย 4 ใน 5 คนจากที่ได้ลงทะเบียนไว้ และเมื่อการแข่งขันในรอบคัดเลือกและการประกาศทีมเชิญของ The International เริ่มต้นขึ้น ทีมจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้จนกว่ารายการนี้จะจบลง

หนึ่งทีม หนึ่งสิทธิ์
ในรายการ The International 2019 ต้นสังกัดหรือบุคคลที่มีทีม Dota 2 มากกว่าหนึ่งทีม จะสามารถมีทีมลงแข่งขันในรายการนี้ได้แค่เพียงทีมเดียวเท่านั้น โดยไม่สนใจเรื่องคะแนนของทีม โดยทุกทีมสามารถเข้าร่วมการแข่งขันของ DPC ได้ตามปกติ แต่ต้องจัดการเรื่องสิทธิ์การเป็นเจ้าของทีมให้เสร็จเรียบร้อยก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือกประจำภูมิภาคของงาน TI จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้รวมถึงกรณีที่ผู้เล่นมีผลผูกพันทางการเงินกับทีมอื่นเช่นกัน

จับคู่ Minor และ Major ทีมเล็กมีโอกาสแจ้งเกิด
ในฤดูกาลถัดไป การแข่งขันรายการระดับ Minor และ Major จะถูกจัดขึ้นเป็นคู่ๆ โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกของแต่ละคู่จะมีช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกัน ความน่าสนใจของระบบนี้อยู่ที่การยกเลิก Direct Invite ที่ทำให้ทุกทีมต้องลงมาแข่งกันในรอบคัดเลือก

ในแต่ละคู่งาน Minor และ Major นั้น รอบคัดเลือกสำหรับงาน Major จะถูกจัดขึ้นก่อน ทีมที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบไปแข่งในรายการ Major เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มาแข่งขันในรอบคัดเลือกของรายการ Minor และ แชมป์ในรายการ Minor นี้จะได้รับสิทธิ์ไปแข่งขันในรายการ Major ที่จัดคู่กัน

รายการ Minor จะต้องมีอย่างน้อย 8 ทีม โดยต้องมีทีมจากรอบคัดเลือกอย่างน้อย 1 ทีมต่อภูมิภาค และ รายการ Major จะต้องมีอย่างน้อย 16 ทีม โดยต้องมีทีมจากรอบคัดเลือกอย่างน้อย 2 ทีมต่อภูมิภาค โดย ทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งรายการ Minor และ Major จะได้รับคะแนน Qualifying Points โดยตารางการจัดงานสามารถดูได้ในที่มาท้ายข่าว

alt="a"
ที่มา: Dota 2

Get latest news from Blognone

Comments

By: gnamsai on 5 June 2018 - 11:23 #1053484
gnamsai's picture

ชอบแบบเดิมมากกว่าแหะ

By: Aize
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 5 June 2018 - 13:16 #1053523
Aize's picture

รู้สึกว่าจะปรับให้ลดความเหนื่อยของผู้เล่นลง ตารางการแข่งเป็นระบบมากขึ้น เอาทีมเชิญออกนี่ถือว่าดีมาก ตัดปัญหาเลือกทีมดังๆ แต่ฟอร์มห่วยเข้ามาเรียกคนดู ทั้งๆ ที่ทีมอื่นเขาฟอร์มดีกว่า ไปแข่งคัดเลือกให้หมด ชอบระบบ คัด Major ก่อน ใครไม่ได้ไปก็ไปคัด Minor ต่อ เพื่อเอาคนชนะไป Major อีกทีม แต่เรื่องทีมสังกัดลงแข่ง TI ได้ทีมเดียวไม่ค่อยแฟร์เท่าไร กลายเป้นเหมือนกีดกันผู้เล่น ทั้งๆ ที่ต้นสังกัดเดียวกัน แต่ก็คนล่ะทีมคนล่ะผู้เล่น หรือกลัวสังกัดใหญ่ๆ จะกวาดรางวัลไปหมด งี้ สังกัดใหญ่ๆ แต่ตั้งทีมใหม่ชื่อใหม่ไปเลย ก็แก้ปัญหาแล้วงี้ป่ะ เหมือน EHOME.Keen ที่เปลี่ยนเป้น Keen Gaming แบบนี้ก็ถือว่าคนละสังกัดป่ะ


The Dream hacker..

By: mk-
Symbian
on 5 June 2018 - 13:46 #1053539 Reply to:1053523
mk-'s picture

EG แข่งคนดูเกือบ 90k เลยนะ ไหนจะนาวี่อีก ตัดไปคนดูหายไปเยอะ
ส่วนทีมสังกัดเดียวกันก็มีเยอะไป lgd lgd.fy vg vg.jt vg.js ig ig.v ทีมพวกนี้มีโอกาสได้ไป ti พร้อมกัน ดูแล้วปวดหัว
ควรจะตั้งชื่อทีมแต่ละทีมให้ดูโดดเด่นไปเลยก็ดีเหมือนกัน