Tags:
Node Thumbnail

ผลกระทบจากกฎ GDPR ของยุโรป ทำให้สัปดาห์นี้เราได้อีเมลแจ้งเตือนจากเว็บไซต์และบริการออนไลน์จำนวนมาก ว่าปรับนโยบายความเป็นส่วนตัวให้สอดคล้องกับ GDPR แล้ว (GDPR คืออะไร?)

แต่ในด้านกลับก็มีเว็บไซต์อีกจำนวนมากที่อาจปรับตัวรับมือกับ GDPR ไม่ทัน และเมื่อ GDPR มีข้อกำหนดไว้ว่าถึงแม้อยู่นอกยุโรป แต่ถ้าให้บริการแก่คนยุโรป ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใน GDPR ด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้เว็บไซต์เหล่านี้แก้ปัญหาด้วยการบล็อคคนยุโรปซะเลย

ตัวอย่างเว็บไซต์เหล่านี้มีทั้งหนังสือพิมพ์ชื่อดังของสหรัฐอย่าง Chicago Tribune และ LA Times ที่ขึ้นหน้าแจ้งเตือนว่า กำลังอยู่ระหว่างการรีวิว GDPR และเตรียมตัวปฏิบัติตาม ก่อนหน้านี้บริการออนไลน์ Instapaper ก็ประกาศหยุดให้บริการแก่คนยุโรปด้วยเหตุผลเดียวกัน

หลังเกิดเหตุการณ์นี้ Andrea Jelinek ประธานของ European Data Protection Board ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล GDPR ให้เกิดการบังคับใช้จริง ก็ออกมาวิจารณ์ว่ายุโรปให้เวลานานมากแล้วในการเตรียมตัวรับ GDPR

No Description

ที่มา - The New York Times

Get latest news from Blognone

Comments

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 26 May 2018 - 11:28 #1051740
Perl's picture

E-mail เข้าตรึมเลยช่วงนี้ เพราะหลายเว็บแจ้งปรับ Term ใหม่

By: pote2639
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 26 May 2018 - 19:07 #1051792 Reply to:1051740

รำคาญมาก 5555 ไม่เกี่ยวกับเราๆ ก็ส่งมา เหอะ

By: Configuleto
AndroidWindows
on 26 May 2018 - 22:27 #1051813 Reply to:1051792
Configuleto's picture

เอาจริงๆเมล์ที่ส่งมาเกี่ยวกับเราๆหมดละครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในฐานะผู้ใช้บริการควรอย่างยิ่งต้องอ่านข้อตกลง ซึ่งมีสัญญาผูกพันธ์กันอยู่

(ผมยังจำไม่ลืมอ่านไปเจอ bitbucket เขียนข้อตกลงไว้กว้างเกินควร และโชคดีไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียวที่สังเกตเห็น)

ใช่ ปกติ agreement พวกนี้มันยาวอ่านลำบาก แต่อาศัยโอกาศนี้ GDPR บังคับใช้มีสรุปประเด็นสำคัญข้อตกลง ให้ผู้ใช้อ่านง่ายขึ้น ยิ่งควรสนใจไว้

By: topty
Contributor
on 26 May 2018 - 11:45 #1051743

ระว่าง => ระหว่าง

By: ck4u
iPhoneWindows PhoneBlackberrySymbian
on 26 May 2018 - 12:31 #1051750

ให้เวลาเกือบ 2 ปี

By: Bigkung
iPhoneWindows Phone
on 26 May 2018 - 18:05 #1051788
Bigkung's picture

ทำเป็นปรับตัวช้า ก็เพราะจะเอาคืน EU เหมือนกันหล่ะมั้ง และหลีกเลี่ยงค่าปรับด้วย เพราะออกกฎหมายมากดดันบริษัทอื่นๆเรื่อยๆนิ ถ้าวุ่นวายขนาดนี้ต้องมีคนของ EU บ่นบ้างหล่ะ ไปไหนไม่ได้ ทำอะไรเกี่ยวกับพวกนอก EU ก็ไม่ค่อยได้ โปรแกรม chat ติดต่อกันข้ามโลกนี่เหมือนโดนตัดขาดเลยมั้งงั้น รอดูว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกันระหว่างบริษัทที่ต้องการรายได้จากประชากรใน EU กับ ประชากรใน EU เองที่ต้องใช้งานอะไรแทบไม่ได้เลยสักพัก

By: alonerii
AndroidUbuntuWindows
on 26 May 2018 - 21:39 #1051804 Reply to:1051788

เอาคืนยังไง ในเมื่อพวกเจ้าที่หยุดนี่ไม่ใช่บริการหลักเจ้าใหญ่อย่าง Google Twitter Facebook แล้วแอพแชทอย่าง Whatsapp ก็ใช้ได้ Spotify ก็ยังใช้ได้เลย แค่หนังสือพิมพ์เข้าไม่ได้สักเจ้านึงคงไม่ได้ทำให้คนเดือดร้อนขนาดนั้นหรอก

By: Yone on 27 May 2018 - 04:35 #1051827 Reply to:1051788

คิดจะเอาคืนก็เสียลูกค้าละครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 27 May 2018 - 00:28 #1051823
mr_tawan's picture

ผมเห็นบางคนพูดว่า ถ้าไม่มีสาขาในยุโรป ก็ไม่ต้องทำตาม GDPR ก็ได้ เดาว่าเหตุผลคืออำนาจศาลอาจจะไม่ครอบคลุมบริการที่เปิดในต่างประเทศ

อีกอย่างคือ กฎหมายเรื่องข้อมูลส่วนตัว ก็มีของจีนและของรัสเซียที่เขียนในทิศทางเดียวกันอยู่ แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครออกมาเต้นเท่า GDPR

แต่ผมทำงานบริษัทใน UK ก็โดนสองเด้งอยู่ดี (ฮา)


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Hadakung
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 27 May 2018 - 08:12 #1051834 Reply to:1051823

จากข่าวแค่ดันมีคนยุโรปสมัครบริการ GDPR ก็จะตามไปคุ้มครองทันทีนิครับ ไม่น่ารอดกัน

By: Iamz
AndroidWindows
on 27 May 2018 - 11:00 #1051841 Reply to:1051834

EU Commission บอกว่าแบบนี้ไม่นับครับ เราอยู่ของเราดี ๆ คนยุโรปมาใช้เองไม่นับ ต้องมีการเจาะกลุ่มคน EU โดยเฉพาะมากกว่านั้น เช่นมีเว็บไซต์เป็นภาษาของประเทศใน EU โดยเฉพาะ หรือรับจ่ายเงินเป็นสกุลใน EU ถึงจะตามไปคุ้มครอง

By: Bigkung
iPhoneWindows Phone
on 27 May 2018 - 19:06 #1051890
Bigkung's picture

จากที่อ่านๆมาผมพอเข้าใจแล้วว่าทำไมค่าเงิน EU ดิ่งลงจังแต่น่าจะชั่วคราวแหล่ะ จนกว่าเว็บพวกนี้จะกลับมาให้บริการอีกครั้ง จึงจะเกิดการซื้ออขาย คอนเท้นเป็นเงิน EU อีกครับ พวกที่ปิดการเข้าถึงกับคน EU เป็นพวกส่วนน้อยนี่นะพวกเว็บใหญ่ๆรองรับกันหมดแล้ว คนใน EU คงไม่สะเทือนกันหรอก