Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

Tesla Model 3 เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 และเคยสัญญาไว้ว่าจะเป็นรถราคาจับต้องได้ เริ่มต้นที่ 35,000 ดอลลาร์ แต่ในความเป็นจริง ผู้รับรถในตอนนี้ไม่มีใครสามารถสั่งรถราคาต่ำสุดได้ บริษัทเองนอกจากติดพันกับการแก้ปัญหาสายการผลิต และยังหันไปเปิดตัวรุ่น Performance ที่ราคาสูงถึง 78,000 ดอลลาร์แทน

เมื่อมีผู้สอบถามเมื่อใดถึงจะสั่งรุ่นต่ำสุดได้ Musk ตอบว่าต้องรอ 3-6 เดือนหลังจากสามารถปรับสายการผลิตให้เข้าสู่ระดับ 5,000 คันต่อสัปดาห์ได้แล้ว โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 3,500 คันต่อสัปดาห์เท่านั้น

Musk ระบุว่าจะขายรถรุ่นต่ำสุดได้ต้องกดต้นทุนให้ได้ตามเป้าหมายก่อน หากส่งมอบรุ่นต่ำสุดทันทีบริษัทก็จะขาดทุนจนเจ๊ง

ที่มา - @elonmusk

alt="image"

Get latest news from Blognone

Comments

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 23 May 2018 - 16:27 #1051135
devilblaze's picture

ต้นทุนอะไรจะเยอะขนาดนั่น ....

ปัญหาของเทสล่าคืออะไรกันแน่ Knowhow ? หรือ supply chin ?

เห็นข่าวว่ายังค้างหนี้กว่า 2.4พันล้านดอลลาห์

By: freeriod on 23 May 2018 - 18:32 #1051163 Reply to:1051135
freeriod's picture

แบต กะโครงรถ ไม่ได้ถูกๆนะ

By: TigerST
Contributor
on 23 May 2018 - 21:38 #1051183 Reply to:1051163

ผมเห็นต่างนะ
เอาจริงๆผมกำลังงงว่า Tesla กำลังเน้นทางไหนกันแน่ระหว่าง
Self Driving Car หรือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะตอนนี้แอบรู้สึก Sunk Cost มันเริ่มเยอะไปละ
ถึงแม้จะบอกว่าต้นทุน R&D มันสูง และคืนทุนในอนาคต แต่มันถึง State ที่ต้องทำวิจัยทั้งสองขาพร้อมกันหรือเปล่า เพราะยังไม่คืนทุนเลย นี่ไม่นับเรื่องถ้ามันสำเร็จแล้วต้องสร้างโรงงานเพิ่มนะครับ แล้วโรงงานไม่ใช่บาทสองบาทหรือสร้างแล้วเกิดขึ้นเลย ต้องใช้เวลาอีก

ผมกำลังสงสัยตรงนี้แหละ

By: langisser
In Love
on 23 May 2018 - 23:00 #1051189 Reply to:1051135

หรือไม่ก็รุ่นสูงทำกำไรได้ดีกว่า ก็ทำรุ่นสูงออกมาก่อน เพราะตอนนี้กำลังการผลิตมีจำกัด

By: RyoDaii
Windows PhoneAndroidWindows
on 24 May 2018 - 10:15 #1051235 Reply to:1051135

แผ่นเหล็กโง่ๆแผ่นนึงราคาไม่กี่บาท แต่ตอนผลิตมันมีเครื่องจักรกับ Die ที่ต้องซื้อและสร้างใหม่ พาร์ทนึงก็กว่าจะออกมาได้จ่ายพวกนี้เป็นล้านแล้วครับ ต้นทุนรถมันสูงมากอยู่แล้ว ยิ่งใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปอีกยิ่งแพงสุดหูรูดครับ

By: BoBoBo
iPhoneAndroid
on 23 May 2018 - 18:05 #1051153

ปีนี้น่าจะได้คำตอบว่าอยู่หรือไป

By: 7
Android
on 23 May 2018 - 18:31 #1051162
7's picture

ไม่ต้องทำหรอก ให้รถจีนเขาทำเหอะ

By: Jirawat
Android
on 23 May 2018 - 20:25 #1051176 Reply to:1051162
Jirawat's picture

จีนแซงทางโค้งไปแล้ว

By: Mike26
iPhoneAndroidBlackberryRed Hat
on 23 May 2018 - 20:18 #1051174
Mike26's picture

3500 คัน/สัปดาห์ = 182,000 คัน/ปี นี่เยอะมากเลยนะครับ
ใกล้เคียง Honda โรจนะ ที่น้ำท่วมเมื่อ 2554 ที่ประมาณ 200,000 คัน/ปี (หลังจากเปิดอีกรอบเพิ่มเป็น 240,000 คัน/ปี)
เป้าหมาย 5000 คัน/สัปดาห์ = 260,000 คัน/ปี เทียบเท่า Toyota เกตเวย์ มันช่าง Aggressive ยิ่งนัก แต่เชื่อว่า Elon ทำได้

ไม่รู้ว่าสายการ Assembly โรงงาน Tesla ใช้ FIFO เหมือน Toyota ไหม
ไม่สต็อค หรือ Buffer part เมื่อชะงัก 1 process ก็จะกระทบเป็นลูกโซ่ ยาวไปถึง Supplier

ที่แน่ๆ Supplier อะไห่ล่ตัวถังพร้อมมาก เพราะผลิตโดย ไทยซัมมิท ของคนไทยตะกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ไปเปิดโรงงานที่ US การันตีกำลังการผลิตส่งให้ Tesla ปีละ 500,000 คัน ธนาธร กับ Elon เค้าซี้กัน

มโนสุดแรงกล้าว่า ถ้าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชนะเลือกตั้งในอนาคต อาจจะมีโอกาสได้เห็น Tesla ขายในเมืองไทย

By: TigerST
Contributor
on 23 May 2018 - 21:32 #1051181 Reply to:1051174

แต่ ช้าก่อน ถ้าโรงงานมีเท่าที่มีตอนนี้ ก็จบข่าวนะฮะ
ฮอนด้านี่ในไทยเราที่ผลิตกันนี่มีมากกว่าสองโรงนะ แถมป้อนแค่บางพื้นที่ของโลกนะฮะ ไม่ได้สองสามโรงป้อนทั่วโลกแบบ Tesla

By: 7elven
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 23 May 2018 - 22:18 #1051185 Reply to:1051181

แต่ช้าก่อน Tesla มันยังไม่ได้แมสขนาดรถใช้น้ำมันนะ ดังนั้นคำสั่งซื้อมันไม่น่าจะเยอะจนต้องไปเทียบกับฮอนด้ามั้ง

By: tontpong
Contributor
on 23 May 2018 - 22:49 #1051186 Reply to:1051185

ยอดสั่งยังไม่ mass, เลยยังไม่ทำราคาให้ mass .. หรือราคายังไม่ mass, ยอดสั่งเลยไม่ mass ?

By: sifer3178
iPhoneAndroidSUSEUbuntu
on 23 May 2018 - 22:50 #1051187 Reply to:1051185

จริง ๆ ยอดจองตอนแรกสูงมากนะครับจนทำให้ลูกค้ารอกันถึงปีกว่ากันเลยทีเดียว แต่ก็ยกเลิกจองกันเยอะเพราะรอนานเกิน แต่ถ้าผลิตได้ 5,000 คันต่ออาทิตย์จริง ๆ ยอดสั่งซื้อคงพุ่งสูงขึ้นแน่นอน

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 24 May 2018 - 00:58 #1051197 Reply to:1051174
lew's picture

ปัญหาคือไปโฆษณาไว้ว่าเริ่มต้น 35,000 ดอลลาร์ (ซึ่งก็ไม่ได้ถูกแล้ว ล้านกว่า) คนฝากเงิน 1,000 ดอลลาร์เข้าคิวเป็นปี ถึงเวลาจริงๆ รุ่นต่ำสุดไม่มีขาย

Tesla ทำได้ดีจริงๆ ล่ะครับ กับบริษัทรถเกิดใหม่นี่ก็น่าประทับใจมาก แต่นิสัย Elon ก็ชอบตั้งเป้า (และบอกต่อสาธารณะ) ไว้เกินจริงแล้วทำไม่ค่อยได้ เขาเองก็เคยยอมรับเรื่องนี้ (ในหนังสือ Elon Musk) ว่าแม้เขาจะชอบพูดเป้าหมายเกินทำได้ไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ทำได้นะ แบบนั้น


lewcpe.com, @wasonliw

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 May 2018 - 10:13 #1051234 Reply to:1051197
put4558350's picture

เข้าใจว่าตอนนี้ทำทั้งขยายโรงงานและผลิตรถไปด้วย

รุ่น $35,000 ทำใด้แต่กำไรไม่พอค่าขยายโรงงาน เลยปล่อยรุ่นแพงไปก่อนเอากำไรมาขยายโรงงาน ส่วนรุ่นราคาต่ำทำทีหลังพร้อมกับฉลอการขยายโรงงานเพื่อเลี่ยงตัวแดง


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: pppo on 24 May 2018 - 10:01 #1051231 Reply to:1051174

เห็นด้วย ยอด 5000 คัน/สัปดาห์นี่สูงมาก ตกนาทีละคันได้ ซึ่งก็พอๆกับกำลังการผลิตของโตโยต้าเลย
ถ้าเร่งกำลังได้ประมาณนั้น ต้นทุนต่อคันก็จะต่ำลงไปอีก แต่ไม่คิดว่าจะทำได้เร็วๆนี้ เพราะของมันยังใหม่ ยังไงก็ไปตันคอขวดตรง QC/QA หลังไลน์อยู่ดี

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 24 May 2018 - 10:25 #1051238 Reply to:1051231
put4558350's picture

ต้น เม.ย. ผลิตใด้ 2,000 คันต่อสัปดาห์ ตอนนี้ทำได้ 3,500 คันต่อสัปดาห์ 5000 คัน/สัปดาห์ ... น่าจะทำได้


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: delta on 24 May 2018 - 06:36 #1051206
delta's picture

ช่วงนี้ ปัญหาเยอะ..

By: delta on 24 May 2018 - 06:39 #1051207
delta's picture

ต้นกำเนิดมาจากไหน..ดูแล้วไม่น่ามาจากตระกูลยานยนต์.

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 24 May 2018 - 07:50 #1051215

จะทำรถยนต์ก็ต้องเรียนรู้จากผู้ผลิตรถยนต์ ถึงจะไม่มีเครื่องยนต์ แต่ตัวถัง ระบบไฟฟ้า และระบบขับช่วงล่างมันก็ไม่น่าต่างกันมาก เขาพัฒนาเทคนิควิธีการมาเป็นร้อยปี เอาแค่ในเมืองไทย ซุปฯเก่งๆในโรงผลิตค่าตัวเป็นแสนเวลาแย่งซื้อตัว(ที่ยกมาเพราะปกติฐานเงินเดือนแทบจะต่ำสุดในโรงงาน)ประสบการณ์สำคัญมากๆ แม้จะคิดใหม่ทำใหม่แต่ปัญหาเก่าๆก็ต้องใช้คนมีประสบการณ์แก้ไข มันถึงจะไว เห็นไปเปิดhackathon เพื่อแก้ไขปัญหาการผลิต ก็รอดูว่าจะแก้ได้จริงไหม

อีกอย่าง หรือเขาจะเปลี่ยนแผนการตลาด ไปจับตลาดพรีเมียมอย่างเดียว เพราะมองว่าตลาดmassยังไงก็สู้จีนไม่ได้?