Tags:
Node Thumbnail

AIS เปิดตัวเครือข่าย NB-IoT ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศเป็นรายแรกของไทย พร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์กับทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ รวมถึงมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยที่ต้องการพัฒนาสินค้าหรือบริการ ก็สามารถเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ AIS เพื่อเปิดโอกาสใหม่ได้

No Description
บริการ IoT ของ AIS มีทั้งเครือข่าย NB-IoT และ eMTC (enhanced Machine-Type Communication) การเปิดเครือข่าย IoT ทั้งสองเทคโนโลยีคู่กันเป็นการตอบสนองรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน
NB-IoT เหมาะสำหรับการส่งข้อมูลปริมาณน้อย แบนวิดท์ระดับ 24kbps แต่กินพลังงานต่ำ และสามารถใช้งานระยะยาวหลายปี หรือหากใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องจนแทบไม่ต้องมีการซ่อมบำรุง ตัวอย่างการใช้งาน เช่น เซ็นเซอร์ตรวจอากาศ, สวิตช์หรือมิเตอร์ต่างๆ ไปจนถึงการรายงานตำแหน่งของยานพาหนะ การใช้งาน NB-IoT จึงมักเน้นที่การพัฒนาระบบบเกษตรกรรมอัจฉริยะ (smart farming), ระบบจัดการเมืองด้วยเซ็นเซอร์ (smart city), และการทำนายจัดการสภาพอากาศ (smart environment)

พันธมิตรของ AIS ที่ร่วมพัฒนาการใช้งาน NB-IoT แล้ว คือ ปตท. ใช้เซ็นเซอร์ตรวจสอบความสมบูรณ์ของท่อส่งก๊าซ และส่งข้อมูลถึงวิศวกรได้อย่างต่อเนื่อง, โครตรอน กรุ๊ป (Krotron) ผู้ให้บริการเครื่องหยอดเหรียญโดยเฉพาะเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญ โดยโครตรอนใช้ NB-IoT ทำให้ตัวเครื่องสามารถแจ้งศูนย์บริการได้ว่าเหรียญกำลังเต็ม และยังมี MoBike ที่สามารถรายงานตำแหน่งของจักรยานจำนวนมากได้ว่าจอดอยู่ตำแหน่งใด ทำให้ศูนย์กลางสามารถติดตามจักรยานจะและจัดการวางจักรยานตามความต้องการของผู้ใช้ได้

ในขณะที่ eMTC จะรองรับแบนด์วิดท์สูงระดับ 1Mpps สามารถใช้งานกับแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายขึ้น เช่น การส่งข้อมูลภาพและเสียงอย่างกล้องวงจรปิด ข้อมูลสัญญาณชีพสำหรับงานด้านสุขภาพ เป็นต้น ตอนนี้โครงข่าย eMTC กำลังพร้อมเปิดให้บริการบางพื้นที่ภายในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะครอบคลุมทั้งประเทศภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
นอกจากการพัฒนาเครือข่าย AIS ยังสร้าง ecosystem สำหรับงาน IoT ด้วยการให้บริการอุปกรณ์ เช่น Sensor, Chipset, Module, Device, eSIM และมีชุดพัฒนา IoT (NB-IoT Development Kit) เปิดให้ผู้สนใจและภาคธุรกิจ สามารถนำไปต่อยอดและพัฒนา IoT Solutions ได้ง่าย

นอกจากนี้ยังมี IoT Platform ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ เช่น Connectivity Platform ที่สามารถ เปิด-ปิดการใช้งานได้เอง และปรับเปลี่ยนรายละเอียดการใช้งาน เช่น แพ็คเกจ, การเชื่อมต่อโครงข่าย (APN) ให้สอดคล้องกับกระบวนการผลิต ตรวจสอบสถานการณ์เชื่อมต่อ และปริมาณการใช้งานผ่านเว็บไซต์
ในแง่ของ ecosystem AIS ยังเปิดตัว เครือข่ายพันธมิตรภายใต้ชื่อ AIS IoT Alliance Program (AIAP) ประกอบด้วยสมาชิกจาก หน่วยงานภาครัฐและเอกชน, บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องหรือสนใจในนำเทคโนโลยี IoT ไปพัฒนาหรือปรับปรุงองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตน

No Description
ความโดดเด่นดังกล่าวข้างต้นทำให้ AIS คว้า 2 รางวัลจาก Frost & Sullivan Thailand Excellence Awards (องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก และจัดอันดับความเป็นเลิศทางธุรกิจเป็นประจำทุกปี) คือ รางวัล ผู้นำด้านเทคโลยี IoT และนวัตกรรม Cloud Services จากงาน 2018 Frost & Sullivan Thailand Excellence Awards ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยี IoT และ Cloud ในไทย

No Description
ภาพจาก AIS Business

รางวัล 2018 Thailand IoT Solutions Provider of the Year ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนา IoT แบบครบวงจร ด้วยเครือข่าย NB-IoT หรือ Narrow Band - Internet of Things และสร้าง IoT Ecosystems ภายใต้ชื่อ AIS IoT Alliance Program หรือ AIAP เป็นรายแรกของประเทศไทย เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถ, ผลิตภัณฑ์, บริการและโซลูชั่น เพื่อให้เกิดการพัฒนา IoT Solution/Business Model ร่วมกัน

รางวัล 2018 Thailand Cloud Services Innovative Company of the Year เนื่องจาก AIS พัฒนา Cloud Platform ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชันที่ได้รับการพัฒนาและเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้บริการแบบครบวงจร หรือ E2E Cloud Services

Frost & Sullivan ระบุเหตุผลที่ AIS ได้รางวัลว่า AIS สร้างมูลค่าให้ลูกค้าผ่านทางโซลูชั่น และแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ รวมถึงบริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทยเองก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการพัฒนา IoT ที่มากกว่าการใช้งานแค่ Asset Tracking เหมือนอย่างที่เป็นมาในอดีต (Asset Tracking คือการใช้ซอฟต์แวร์ติดตามสินทรัพย์ต่างๆ เช่น การสแกนบาร์โค้ดที่ติดกับวัตถุ หรือการใช้ GPS ติดตามสิ่งของ เป็นต้น) และ AIS ก็เป็นผู้บุกเบิกและนำ IoT Solution มาประยุกต์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค

AIS พัฒนาความสามารถในการให้บริการ Platform IoT และ Cloud อยู่เสมอ ทำให้ AIS เป็นพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งให้แก่ภาคธุรกิจที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เร็วมากขึ้นทุกที เพื่อให้สามารถก้าวไปสู่การทำธุรกิจในยุคต่อไปได้อย่างทันท่วงที หากสนใจต้องการเข้าใช้บริการ IoT Platform หรือต้องการต่อยอด พัฒนานวัตกรรม สามารถติดต่อสอบถามได้ทาง Corporate Call Center 1149 หรือผ่านเว็บไซต์ http://business.ais.co.th/iot

Get latest news from Blognone