By: lew 
on 16 April 2018 - 19:21
Tags:
Topics:
ลายนิ้วมือถูกใช้เพื่อยืนยันตัวตนมากขึ้นในช่วงหลังๆ โดยเฉพาะการปลดล็อกโทรศัพท์มือถือ หรือการยืนยันตัวตนในโอกาสต่างๆ โดยที่ผ่านมามักมีคำเตือนถึงการเผลอปล่อยลายนิ้วมือโดยไม่ตั้งใจ เช่น การถ่ายภาพจากระยะไกล แต่ในรายการตีสิบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็มีกิจกรรมบนเพจ "ตีสิบเดย์ At Ten Day" โดยแจกภาพถ่ายโพลารอยด์พร้อม "รอยนิ้วมือ" ของสมาชิก
การพิมพ์ลายนิ้วมือในรายการไม่ใช่การพิมพ์แบบปั๊มหมึกเหมือนการบันทึกลายนิ้วมือลงเอกสาร แต่เป็นการวางนิ้วมือลงบนกระดาษภาพถ่ายเฉยๆ และสมาชิกแต่ละคนก็อาจจะปั๊มลายนิ้วมือทับกันไปมา ทำให้ไม่แน่ชัดนักว่าคุณภาพของลายนิ้วมือที่ผู้ได้รับรางวัลได้ไปจะคุณภาพสูงเพียงใด
ถ้าทีมงานรายการมาอ่าน ผมคงแนะนำว่าก่อนส่งมอบรางวัลก็ "เช็ดออก" เสียหน่อยก่อนส่งมอบน่าจะดีกว่า ให้รู้ว่าเป็นภาพที่สมาชิกเคยจับก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ที่มา - Facebook: ตีสิบเดย์ At Ten Day
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
????????????
biometric
อันนี้เข้าใจ แค่สงสัยว่ารายการเค้าไม่เข้าใจในแง่นั้นเหรอ ถึงทำแบบนั้น
กรรม ให้ทั้งลายนิ้วมือ ให้ทั้งลายม่านตา
ภาพลูกตา noise เยอะๆ และซูมจนเบลอตามรูปข่าวนี้ อ่านลายม่านตาได้ด้วยหรือคะ
Welcome to image processing.
"noise เยอะๆ และซูมจนเบลอ"
อันตรายมากๆ
ข่าวนี้ล้อกับข่าวข้างล่าง ที่ใช้ลายนิ้วมือจากภาพถ่ายเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเลย อีกมุมการส่งbiometric ให้คนอื่นง่ายๆ นั้นไม่ปลอดภัยจริงๆ
อีกหน่อยต้องใส่ถุงมือตลอด เดี่ยวไปทิ้งลายนิ้วมือเอาไว้
พออ่านข่าวนี้ก็เอะใจนิดหนึ่ง รูป thumbnail นี้เป็นลายนิ้วมือของใคร?
เข้าใจว่าเป็นของผู้อัพโหลดขึ้น Wikipedia เองครับ
lewcpe.com, @wasonliw
blognone เดี๋ยวนี้มีข่าวไม่เป็นเรื่องเยอะนะ
ผักบุ้งโหรงเหรง
เอ ข่าวนี้มันก็ข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีนะครับ ทำไมถึงข่าวไม่เป็นเรื่องหล่ะครับ
+1
เฉพาะย่อหน้าแรกของข่าวก็เกริ่นนำชัดเจน...ว่าประเด็นคืออะไร
Comment ไม่เป็นเรื่องก็เยอะนะ ... ผักบุ้งโหรงเหรง
ถามตรงๆ
เนื้อข่าวข้างบน คิดว่าคนปกติจะเอาไปสำเนาลายนิ้วมือหรือม่านตาได้จริงเรอะ
โอกาสแค่ไหน หนึ่งในล้าน หนึ่งในสิบล้าน หรือหนึ่งในร้อยล้าน
แล้วทำไมต้องคนปกติล่ะครับ?
ที่ True ทำเอกสารบัตรประชาชนหลุดไปนั่นเนื่องจากดันตั้งค่าเป็น Public คนที่เจอก็ไม่ใช่คนปกตินะครับ ขืนคิดแบบนี้ผมคงวางมือถือทิ้งไว้ที่ไหนก็ได้เพราะคนปกติคงไม่เอาไป
เอาเถอะครับ
ข่าวตั้งทฤษฎีบ้าๆ บอๆ คิดว่ามันสมควรมีก็ยินดีด้วยครับ
ข้อมูลที่เข้าถึงได้โดยคนทั่วไป อาจจะตกไปอยู่ในมือใครก็ได้ไงครับ
สมมติคนได้รางวัล เอารูปมา scan ขึ้น internet ผมเชื่อว่ามีคนไทย อย่างน้อย 1 คน สามารถสร้างลายนิ้วมือปลอมได้
ปัญหาคือ ลายนิ้วมือ ไม่เหมือน password มันเปลี่ยนไม่ได้ แม้ว่ากระบวนการลอกจะยากกว่า
แล้วถ้าสามารถเข้าถึงโทรศัพท์ของน้องเขาได้
ไม่ต้องเข้าถึงได้บ่อยๆ หรอกครับ ครั้งเดียวความเสียหายก็เกิดแล้ว
ข่าวนี้มันแสดงให้เห็นว่า คนทั่วไปยังไม่เข้าใจความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้
หนึ่งในสิบหรือร้อยล้าน มันก็ยังมี "หนึ่ง" อยู่ดีนะครับ ของแบบนี้ครั้งเดียวก็เกินพอ ข่าวเค้าตั้งประเด็นถึงความเข้าใจในเรื่องนี้ ถ้าคุณไม่เข้าใจก็ลองอัพโหลดรูปลายนิ้วมือมาแจกดูครับ
คุณอาจจะมุ่งไปโฟกัสตรงส่วนที่เป็น BNK48 มากเกินไป เลยมองข้ามด้านอื่นๆ ที่ดูจะเกี่ยวกับความเป็นไอที ส่วนเรื่องโอกาสที่จะเกิดขึ้น แค่ดูว่ามันมีความเป็นไปได้ ผมว่ามันก็น่าสนใจที่จะเอามาเขียนได้แล้วครับ โดยเฉพาะเมื่อ AI หรือในอนาคตที่อาจจะมี Algorithm ที่สามารถจำลองหรือเติมรายละเอียดลายนิ้วมือให้สมบูรณ์ได้จาก source คุณภาพต่ำได้ ซึ่งก็เริ่มมีของจริงให้เห็นบ้างแล้ว
ถ้ามองในมุมนี้มันก็จะกระทบกับทุกคนไม่เฉพาะกับคนดังอย่าง BNK48 เป็นการทำให้ตระหนักและระวังในเรื่องนี้แต่เนิ่นๆ
งั้นพอมีข่าวแฮคระบบใหญ่ๆ ก็สามารถเขียนข่าวขึ้นมาว่า อาจไปแฮคระบบยิงระเบิดนิวเคลียร์กลายเป็นสงครามโลกผู้คนล้มตาย ได้สินะ
แฮกระบบใหญ่ๆที่ว่ามันคืออะไรล่ะครับ
ตอนดูรายการอยู่ยังคิดเลยว่าอันตรายมากกกก
ตอนดูรายการมันก็สนุก ขำๆ ไม่ได้คิดอะไร
แต่พอมาพูดประเด็นเรื่องความปลอดภัย มันก็ซีเรียสจริงๆ แหละ
ลายนิ้วมือเป็นข่าวมาก็เยอะแล้ว
ปกป้อง | เฟสบุ๊ก | ทวิตเตอร์
เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดอย่างแรง
That is the way things are.
ตอนดูรายการคิดว่าพูดเล่น นี่เอาจริงหรอ มูลค่า10ล้านยังน้อยไปนะผมว่า
ถ้าได้ไปแบบสมบูรณ์ๆเอาไปลอกลายก่ออาฉญากรรมนะ อื้อฮื้อไม่อยากคิด
The Last Wizard Of Century.
เปลี่ยนจากรอยนิ้วมือ เป็นรอยจูบ นอกจากจะไม่ทำให้ความปลอดภัยเสีย แล้วรับรองว่ามูลค่าเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 10 เท่า
เตรียมเงินประมูลแล้วสินะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าน่าจะเป็น 100 เท่ามากกว่า ขอรอยจูบ ฌ คนเดียวก็พอ....
ปล. ถัดไปมีข่าว โอตะอัจฉริยะ ประมูลรูปที่มีรอยจูบไปสกัด DNA จากน้ำลายเอาไปโคลนนิ่ง
เป็นความเห็นที่สยองมากครับ ว่าแต่คิดค่าใช้จ่ายยังไงครับ #ผิด
สยองมากกว่าเสี่ยงครับ
เราก็ชอบ ฌ
The Last Wizard Of Century.
ผ้าเช็ดหน้า เช็ดหน้าจะๆ ปืดนึง
ก็ได้โครตของรางวัลแล้วครับ
ง่ายๆ ปลอดภัย แต่เก็บนานๆ อาจจะราขึ้นได้
มาพร้อมม่านตาและลายนิ้วมือ