ปัญหาของการเลือกตั้งแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน นอกจากประเด็นการทุจริตแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก การเลือกตั้งทั่วไปของไทยครั้งล่าสุดมีค่าใช้จ่าย 2,800 ล้านบาท และประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5,800 ล้านบาท และยังไม่มีหลักประกันได้ว่าจะไม่มีการสวมสิทธิหรือการทุจริตที่เกิดจาก “คน” ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง คำตอบของการเลือกตั้ง 4.0 ที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความโปร่งใสได้ คือ ระบบเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ด้วย Blockchain เพราะบนฐานข้อมูลแบบกระจาย (Decentralized) ของ Blockchain จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากเข้ามาเก็บและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล โดยมีกลไกในการตรวจสอบเพื่อสร้างชุดข้อมูลใหม่ ทำให้เป็นไปได้ยากในการสร้างข้อมูลเท็จ โดยเฉพาะ Blockchain สาธารณะเช่น Ethereum มีเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าร่วมเก็บข้อมูลเกือบ 1 ล้านเครื่อง จึงทำให้ข้อมูลมีความมั่นคงอย่างสูง เมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงานภาครัฐของไทย คือ กรมพลศึกษา ได้จัดสัมมนานำเสนอและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์บน Blockchain เป็นครั้งแรกของประเทศ สำหรับการเลือกคณะกรรมการส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา ซึ่งต้องมีการเลือกผู้แทนผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬาจากทั่วประเทศ จำนวนกว่าสองแสนคน เนื่องจากงบประมาณและบุคลากรที่จำกัด การเลือกตั้งออนไลน์บน Blockchain จึงสามารถตอบโจทย์ของหน่วยงานได้ โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ประเมินว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ 15 บาท สร้างความสะดวกและปลอดภัย โดยผู้เลือกตั้งสามารถใช้โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตลงคะแนนได้ มีความโปร่งใส เพราะการลงคะแนนยังคงเป็นความลับแต่ผู้เลือกตั้งสามารถตรวจสอบการใช้สิทธิของตนเองบนฐานข้อมูล Blockchain ได้ นางสาวดารณี ลิขิตวรศักดิ์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า การเลือกตั้งออนไลน์บน Blockchain จะช่วยสร้างความสะดวกให้แก่ประชาชน และทำให้สัดส่วนผู้มาใช้สิทธิมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปใช้ในการแก้ปัญหาการเมืองระยะยาวของประเทศ และพัฒนาไปสู่การเมือง 4.0 ยุค “ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ได้ ที่มา : กรมพลศึกษา Tags: Blockchain, Voting, Election
ดีครับ เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่อยู่ต่างประเทศ ได้ลงคะแนนเลือกตั้งได้ง่ายขึ้น