Tags:
Node Thumbnail

วันนี้บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ได้เข้าซื้อส่วนหนึ่งของเว็บ Social Network ชื่อดัง "Facebook" ในราคา 240 ล้านดอลลาร์ (น่าตกใจที่ราคา 240 ล้านดอลลาร์นี้มากกว่ารายรับทั้งหมดของ Facebook เมื่อเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว)

โดยการเข้าซื้อส่วนของ Facebook ในครั้งนี้นั้นเป็นเพียงแค่การให้สิทธิไมโครซอฟท์ในการควบคุมพื้นที่โฆษณาของ Facebook ทั้งหมดสำหรับกลุ่มลูกค้าที่อยู่นอกสหรัฐซึ่งก็คือกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ Facebook ในขณะนี้ เมื่อรวมกับการเข้าตกลงเจรจากับ Facebook ในครั้งก่อนแล้วหมายความว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้สิทธิในการควบคุมพื้นที่โฆษณาทั้งหมดใน Facebook จนถึงปี 2011

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่การเข้าซื้อในครั้งนี้ไม่รวมสิทธิในการหากินกับ Web Search ของ Facebook

กูเกิลกลายเป็นผู้แพ้ในครั้งนี้เนื่องจากว่า Facebook ได้เลือกไมโครซอฟท์แทน กูเกิลตอบได้แค่ว่า "เราไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเจ้าของทุกอย่างที่ประสบความสำเร็จบนอินเทอร์เน็ต" พร้อมกับปลอบใจตัวเองว่า "Orkut ก็เป็นหนึ่งใน Social Networking ที่ดีที่สุดนะ!"

Mark Zuckerberg เด็กฮาร์วาร์ดอายุ 23 ปี--ผู้ก่อตั้งเว็บ Facebook ขึ้นคาดว่าจะนำ Facebook เข้าตลาดหุ้นเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน ในขณะนี้ Facebook นั้นมีผู้ใช้สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ประมาณสองแสนคนต่อวัน ถ้านับจากสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มียอดใช้ถือเป็น 1% ของการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด การประเมินค่าล่าสุดของ Facebook อยู่ที่ 15,000 ล้านดอลลาร์ ... ถ้าเทียบกับที่ News Corp ได้ซื้อ MySpace ไปในราคา 580 ล้านดอลลาร์แล้วก็ตลกไปอีกแบบ

ที่มา - Business Week

Get latest news from Blognone

Comments

By: AdmOd
iPhoneWindows
on 26 October 2007 - 01:01 #34093

ชอบข่าวอันนี้แฮะ อธิบายเยอะดี :)

By: sugree
FounderWriterAndroidBlackberry
on 26 October 2007 - 09:38 #34106

ผมก็ชอบอันนี้แฮะ ของผมโคตรสรุป

By: survivalsin on 26 October 2007 - 17:22 #34141

ใครช่วยอธิบายโมเดลธุรกิจของเว็บดังๆพวกนี้หน่อยครับ ทำไมขายกันได้เป็นพันเป็นหมื่นล้าน ทั้งที่ก่อนถูกซื้อไป กำไรแต่ละปีก็ไม่เท่าไหร่

By: kamthorn
ContributorAndroidUbuntu
on 26 October 2007 - 19:56 #34163

ในความคิดผมนะ ซึ่งไม่ใช่นักธุรกิจ แต่กำลังเริ่มศึกษาบ้าง ในโมเดลแรก คงเป็นโมเดลปกติที่เรียกว่า service seller ผมคิดว่าปัจจุบันธุรกิจซอฟต์แวร์เปลี่ยนไปแล้ว โดยลดการจำหน่ายลง แต่เน้น service มากขึ้น

การที่ facebook หรือเว็บอะไรก็ตามที่มีฐานสมาชิกมาก (มี traffic มาก) ก็ย่อมจะมีโอกาสในการธุรกิจได้ในอนาคต ไม่ได้หมายความว่าต่อไปผู้ใช้ facebook จะต้องจ่ายเงิน แต่เป็นไปได้ที่ facebook จะเสนอบริการบางอย่างที่สมาชิกต้องเสียเงิน ซึ่งแม้จะมีลูกค้าเพียง 0.1% ที่ยอมจ่าย ก็อาจจะมากพอที่เกิดกำไรมหาศาล

อีกโมเดลหนึ่งคือ loss leader คือยอมให้ฟรี หรือขาดทุนในบางเรื่อง แต่มีโอกาสสร้างรายได้จากทางอื่นได้ ทำนองเดียวกับที่ iPhone ขายในราคาไม่แพง แต่ Apples มีโอกาสได้รายได้จาก AT&T ที่มากกว่าราคาขาย iPhone เสียอีก ในกรณีของ facebook ผมเชื่อว่าไมโครซอฟท์คงมองออกว่าจะใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของ facebook อย่างไร

--


--

By: loptar on 27 October 2007 - 01:21 #34188
loptar's picture

ผู้ใช้สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ประมาณสองแสนคนต่อวัน ถ้านับจากสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มียอดใช้ถือเป็น 1% ของการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด

นี่คือตัวคูณขนาดมหาศาล
อยู่ที่ว่า MS จะเอาไปคูณกับอะไร

izziSoft

By: mnop
Android
on 29 October 2007 - 04:54 #34308

จำนวนผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากนะครับ ถ้าเทียบตามอัตราส่วน page views จะสูงมากๆ เคยอ่านเจอว่าเด็กมหาลัยเข้ามากกว่า 50% ชมเฟซบุ้กประมาณว่าชั่วโมงละครั้ง (ไม่รู้เช็คอะไรกันนักหนา) ซึ่งนอกจากนี้ยังถือเป็นเทรนด์และความฮิป (hip) อีกด้วย ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังขาดตรงจุดนี้อย่างแรง ถ้าใครเก่งๆ น่าจะไปพัฒนา apps ให้เฟซบุ้กนะครับ เขามี api พร้อมทุกอย่าง น่าจะช่วยดึง traffic มาที่เว็บตัวเองได้มากโข

http://www.facebook.com/apps/

dare to try? http://itshee.com/quiz