Tags:
Node Thumbnail

MySpace.com เว็บ Social Networking ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกแบนอีกครั้งจากโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา

MySpace ซึ่งโด่งดังจากความเป็นสังคมขนาดใหญ่ของมัน ทำให้มีเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมากมาย ติดกันงอมแงม ในเมืองไทยนั้น Hi5 ดูท่าจะโด่งดังมากกว่า เพราะอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่า โดยรวมทั่วโลกแล้ว MySpace เป็นแหล่งสังคมออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รวมถึงมี plugin และ component มากมายที่มุ่งสร้างขึ้น เพื่อหวังจะมีส่วนแบ่งทางธุรกิจกระเด็นมาจาก MySpace บ้าง

MySpace นั้นมีเรื่องราวการโดนแบนหลายครั้งหลายคราว ทั้งในสหรัฐอเมริกาเองและที่อื่นๆ ในปัจจุบัน มีโรงเรียนบางแห่งที่ห้ามนักเรียนเล่น MySpace ในเวลาที่อยู่ที่โรงเรียน แต่ครั้งนี้ โรงเรียนใน Bloomfield Hill รัฐมิชิแกน ห้ามนักเรียนเล่น MySpace อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่โรงเรียน และไม่ให้เด็กนักเรียนมี account ที่ MySpace เลย

โรงเรียนเซนต์ฮิวโก้ออฟเดอะฮิลล์ส ซึ่งเป็นโรงเรียนคาทอลิก เป็นโรงเรียนที่ใช้กฏนี้ โดยที่ผู้ปกครองทั้งหลายก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยมีความเห็นว่า ในอินเทอร์เน็ตนั้น มีเรื่องเปราะบางไม่เหมาะสมกับเด็กอยู่มากมาย

Kristen Nicole ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความนี้ให้ข้อสังเกตว่า นี่อาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดอีกกรณีหนึ่งก็เป็นได้ และให้ความเป็นว่านี่เป็นปฏิกิริยาของ "ความกลัวของใหม่" ที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองที่ยังตามเทคโนโลยีไม่ทันทั้งหลาย ซึ่งอาจจะทำให้เด็กจับเทคโนโลยีไม่ทันและมีผลกระทบกับการงานในภายภาคหน้าได้

ความเห็นส่วนตัวของเรา ขนาดประเทศที่เทคโนโลยีรุดหน้าอย่างรวดเร็วแบบสหรัฐอเมริกา ก็ยังมีกระแสที่ต่อต้าน Social Networking แบบนี้ ทำให้เห็นว่า generation gap และ technology gap มีอยู่ทุกที่ทุกแห่งหน อีกทั้ง Social Networking ที่กระแสแรงมากๆในตอนนี้นั้น ก็มีท้งส่วนเสียที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งเป็นอันตรายกับเด็กที่รู้มากแต่วุฒิภาวะยังไม่เพียงพอ และส่วนดีคือ ทำให้เด็กตามกระแสสังคมภายนอกได้ทัน

แต่เอาเข้าจริงแล้ว เราก็ยังไม่แน่ใจว่า ข้อดีกับข้อเสียนั้นมันได้สมดุลกันหรือไม่ เท่าที่เห็นในเมืองไทย ซึ่งกระแสค่อนข้างแรงแต่ยังไม่เท่าเมืองนอกแล้ว ก็ยังเห็นได้ว่า มันเป็นช่องทางที่ทำให้กระแสตะวันตกยิ่งส่งอิทธิพลแรงมากขึ้นโดยออกแรงน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากเด็กๆเต็มใจที่จะรับมันเข้ามาด้วยตัวของเขาเอง

ก็คงต้องดูกันต่อไป

ที่มา - Mashable

Get latest news from Blognone

Comments

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 27 March 2007 - 18:18 #18938
lew's picture

ผมปรับอะไรให้นิดหน่อยนะครับ เช่น MySpace นั้นชื่อทางการ M และ S ต้องเป็นตัวใหญ่ ที่มาควรอยู่ท้ายบทความ และเวลาบทความยาวๆ ควรแบ่งบทความด้วยการใส่ <!--break--> ------ LewCPE


lewcpe.com, @wasonliw

By: mk
FounderAndroid
on 27 March 2007 - 18:34 #18941
mk's picture

เรื่องแท็กช่วยระวังด้วยนะครับ รอให้ autocomplete มันเติมจะดีกว่า อย่างกรณีนี้เรามีแท็ก Social Network อยู่แล้ว ก็ไม่ควรจะใส่ social networking เข้ามา

By: DrRider
WriterAndroid
on 27 March 2007 - 19:13 #18947
DrRider's picture

เรื่องนี้มันเป็นแค่โรงเรียนเดียว (และเป็นโรงเรียนแคธอลิคด้วย ซึ่งค่อนข้างจะเคร่งมากในเรื่องต่างๆ ยังเคยมีข่าวว่าโรงเรียนแคธอลิคที่นึงแบนแฮรี่ พอตเตอร์เลย) ก็จะบอกว่าสังคมตะวันตกไม่สนับสนุนไม่ได้หรอกครับ

ไม่เหมือนเราที่ "รัฐ" ออกมาทำการบอกกันตรงๆ ว่าไม่สนับสนุนและ "ขอความร่วมมือ" (จริงๆ ก็บังคับนั่นแหละ) ทั้งในทางแจ้งและทางลับในการจัดการกับ content ที่ไม่สนับสนุนนั้น

เรื่องนี้จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องพูดลำบากเพราะ พอพูดกันทีไรว่าให้พ่อแม่ดูแลลูก มันก็มีข้ออ้างกันได้ทุกที จะให้รัฐกับคนแปลกหน้าเลี้ยงลูกให้อยู่ได้ น่ารำคาญ


We need to learn to forgive but not forget...

By: ม่อน on 27 March 2007 - 20:08 #18956

ที่สหรัฐ มันแค่โรงเดียวเอง สู้พี่ไทยเราไม่ได้ แบน ซิซูกะ อาบน้ำ กลัว เด็กมีอารมณ์ทางเพศ

By: fujitarc on 27 March 2007 - 20:12 #18957

กำลังสงสัยว่าเป็นกระทู้แก้บั๊กบทความรึเปล่า...

By: kidtalentz on 27 March 2007 - 22:21 #18969

หากไม่อคติกันเกินไปกับคนไทยด้วยกันเอง ความคิดในทุกสังคมมันก็มีทั้งที่ไปทางซ้าย ไปทางขวา และที่อยู่กลางๆ หรือ ค่อนไปทางใดทางหนึุ่งอย่างละนิดหน่อย อเมริกาก็เหมืนอกันละครับ มันไม่ได้เสรีซะจนไม่แบนหรือไม่คิดจะแบน อะไรเลย กระบวนหรือวิธีการอาจจะแตกต่างกัน (บา่งอย่างอเมริกาก็เนียน จนตามกันไม่ทันแล้วเผลอคิดว่าประเทศมันเสรี้เสรี...ไม่เห็นเหมือนบ้านเรา บางอย่างของเขาก็ดีเช่นกัน)

ปีกลาย วุฒิสมาชิกเมริกันคนหนึ่งก็เสนอกฏหมาย ซึ่งถ้าเข้าใจ กันง่ายๆ ก็คือต้องการแบนเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ก,ห้องแชต ,ไออาร์ซี สำหรับคนอายุต่ำกว่า 18 ปี (มีรายละเอียดเยอะกว่านี้นะครับ เช่น บล็อกเว็บไซต็์พำวกนี้ ในโรงเรียนของรัฐ ห้องสมุดประชาชน ฯลฯ)) ส่วนเดือนกุมภาพันธู์่ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ (มกราคมก็มีเสนอมา้แล้วฉบับหนึุ่ง) ก็มีวุฒิสมาชิกอเมริกันอีกคนเสนอกฏหมา่ยแนวเดียวกันลองดูชื่อกฏหมายล่าสุดที่เขาเสนอก็แล้วกัน Social Networking Website Protection Act ตามกำหนดกฏหมาจจะไปมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2551 ส่วนกฏหมายจะได้รับการรับรอง หรือไม่ ก็ไม่รู้

ยกตัวอย่างมาให้ดูเพื่อให้เห็นว่าความคิดแบบเอนเอียงไปในทางปิดกั้นน่ะ ในอเมริกามันก็มี หลายเรื่องเป็นความพยายามจะใช้อำนาจอย่างเผด็จการนั่นแหละไม่ต่างกัน แต่ภาคประชาชน ภาคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน และกระบวนยุติธรรมของเขาบางทีมันเข้มแข็งกว่า ทำให้หลายกรณีสามารถคัดง้างการใช้อำนาจหรือพยายามจะใช้อำนาจเหล่านั้นได้

By: veer
Windows PhoneUbuntu
on 28 March 2007 - 09:24 #19002 Reply to:18969
veer's picture

อเมริกาก็ดูมีคนหลายแบบจริงๆ เพียงแต่ดูเหมือนว่า กลุ่มเสรีนิยมจะแข็งแรงกว่า กลุ่มเสรีนิยมในประเทศไทย

By: veer
Windows PhoneUbuntu
on 28 March 2007 - 09:24 #19003 Reply to:19002
veer's picture

แต่ก็อาจจะแค่ บางรัฐ บางเมือง?

By: toandthen
WriterMEconomics
on 28 March 2007 - 10:42 #19012
toandthen's picture

MySpace โรงเรียนผมที่เชียงใหม่เด็กก็เล่นเยอะ สั่งปิด account เด็กทุกคนโดยการแจ้งผ่านไปที่ Myspace.com โดยตรงเลยแล้วทำจดหมายแจ้งผู้ปกครองอีกด้วย เด็กในโรงเรียนเลยต้องทำ petition แล้วหนีไปเล่น Facebook ชั่วคราวก่อน


@TonsTweetings