ในที่สุดแอปเปิลก็เริ่มขาย iPhone 4 แบบที่ไม่ติดสัญญาและไม่ผูกติดกับเครือข่าย (ปลดล็อค) ในสหรัฐอเมริกาแล้ว ที่ราคา 649 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,800 บาท) สำหรับรุ่น 16GB และราคา 749 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22,800 บาท) สำหรับรุ่น 32GB
สำหรับเราคนไทยคงไม่ต้องอธิบายกันมากว่า "ปลดล็อคแล้ว" หมายความว่าอย่างไร ส่วนราคาดังกล่าวเป็นราคาก่อนภาษี หากแปลงเป็นเงินไทยแล้วก็จะมีราคาถูกกว่าที่ขายในเมืองไทยปัจจุบันครับ
ที่มา - 9to5Mac
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
iPhone เมืองนอก ถูกกว่าเมืองไทย
Android เมืองไทย ถูกกว่าเมืองนอก
Windows Phone เมืองไทย ถูกที่สุด
+1
+1 ด้วยคน 555+
+1 ด้วยจ้า...
+1 ด้วยคน
+1 55555+
+1 ไม่รู้อ่ะคับ เห็นเข้า +1 ก็บวกกะเขามั่ง
สัญญาณ บ่งชี้ว่า ได้เวลา รุ่นใหม่จะออกแล้วสินะ
น่าหิ้วเสียนี่กระไร
รอรุ่นใหม่ครับ อิอ
เมืองไทย iphone4 มีแววจะลดราคาอีกหรือเปล่าครับเนี่ย
คงต้องรอทั้งสามค่ายไปตกลงราคากับท่านศาสดาหละครับ ^^
แต่ถึงไม่ลดก็ขายดียิ่งกว่าแจกฟรีสะอีก
รอ 5 ก็ลดครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เพิ่งซื้อไปอ่ะ ถ้าจะลดก็รบกวนลด now >.<
ปรากฎการณ์ ล้าง stock ..
ฝรั่งอ่านข่าวแล้วคงหัวใจวาย ปกติรู้แค่มัน $199
$199 แต่ติดสัญญาไปอีก 2 ปีนะครับ
ก็ใช่นะครับ คือปกติจ่ายกันแบบติดสัญญาก็เลยรู้สึกไม่แพง ปกติฝรั่งเขาชินกันอย่างนี้ครับ
พอเห็นราคาปลดล็อคปุ๊บ ก็ช็อคได้เหมือนกันครับ-ในแง่มุมมองของฝรั่ง (เคยเกิดกรณี Samsung มาแล้ว ฝรั่งรีวิวตัวปลดล็อคกัน บอกข้อเสียคือ "แพง" แต่จริงๆราคาถูกกว่าบ้านเราเยอะครับ)
+1 ฝรั่งชอบ โทรศัพท์ติดสัญญาแบบถูกๆ
จริงๆไม่ใช่แค่ฝรั่งครับ แม้แต่ผมเองก็มองว่ามันโอเคที่ติดสัญญา 2 ปี ในราคา $199
เพราะยังไงผมก็ต้องใช้ 2 ปีอยู่ดี ก็ต้องจ่ายค่า Data Plan เดือนล่ะ $25 สำหรับ 2GB อยู่แล้ว (เนื่องจาก 200MB ใช้ไม่พอ) ยังไม่รวมค่าโทรกับ text ที่่ยังไงก็ต้องจ่ายอยู่ดี ดังนั้นมองว่าเหมือนได้ iPhone4 มาในราคา $199 ครับ
ถ้าไม่ติดสัญญา ยังไงก็ต้องมาจ่ายค่า Data Plan, Minute กับ Text อยู่ดี แลกกับเพื่อไม่ unlock อาจจะค่อยคุ้มเท่าไร แต่หลังจากกลับมาก็คงค่อย Jail กับ Unlock อีกที
ผมถือว่าปกตินะครับ ตามอายุการใช้งานของโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งก็ประมาณนั้น
ยกตัวอย่าง ที่ Australia ผมเซ็นสัญญาเอา iPhone 3GS ได้เครื่องฟรีแต่ต้องจ่ายรายเดือน 2 ปี เท่าไหร่ก็ตามโปรโมชั่นที่เราเลือก
แต่ผมใช้ได้ 18 เดือนก็สามารถ upgrade เป็นเครื่องใหม่ได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มสักบาท ตอนนี้ผมก็เอา Galaxy S2 มา
ผมว่ายังไงก็คุ้ม เพราะยังไงผมก็ต้องจ่ายรายเดือนอยู่แล้ว เอาโทรศัพท์ฟรีมาด้วยดีกว่า
พอครบ 18 เดือนผมก็ upgrade เครื่องได้อีก
ดีจังแฮะ คือเอาเครื่องเก่าไปเปลี่ยนเป็นของใหม่เลยน่ะเหรอครับ 0_0
ไม่ต้องเปลี่ยนครับเครื่องตกเป็นของเราเลย unlock ด้วย ผมว่าจะยกให้แม่ใช้ต่อ
เจ๋งมากมาย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :D
สำหรับประเทศที่ค่าโทรรายเดือนแพงอยู่แล้ว โมเดลนี้ผู้บริโภคก็น่าจะมองว่าคุ้มครับ
แต่ค่าโทรถูกแทบจะที่สุดในโลกแบบไทย ยังไงก็ไม่คุ้ม
Model ค่าโทรในเมืองไทยนั้นเปรียบเทียบกับอัตราค่าครองชีพก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่นักครับ MSP หลอกหลวงผู้บริโภคด้วยการ advertisement ราคาต่อหน่วยที่ถูกมาก แต่ว่านำมาซึ่งค่าใช้จ่ายแอบแฝงมากมาย Data plan ในเมืองไทยราคาอาจจะถูกกว่าก็จริง แต่ถ้าเปรียบเทียบปริมาณข้อมูลที่ส่งได้ (เพราะส่วนใหญ่เป็น EDGE และ 3G บ้าง) และความย่ำแย่ของ backbone ทีช้า และขายเสถียรภาพ ผมมองว่าค่าใช้จ่ายโทรศัพท์มือถือยังคงสูงอยู่ดี
อีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจ model เมืองไทย ลูกค้าจ่ายรายเดือนประเมินรายรับได้ ต้องจ่ายแพงกกว่าลูกค้าเติมเงิน
ตัวผมเองอยู่ใน US ผมก็มองว่าที่นี่ต้องทำแบบนี้เพราะค่าย premium ต้องการรักษาลูกค้า และแข่งขันสงครามราคา (อีกทั้งกฎหมาย Telecom ใน US นั้นมีรายละเอียดหยิบย่อยมาก เพื่อป้องกันการผูกขาด เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ Bell Telecom) อีกทั้งทุกค่ายยังแข่งขันด้วย promotion ที่โทรหากันเองได้ในราคาถูกมาก
ผมก็ไม่เข้าใจ Model ในไทยเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วทุกที่ผมก็จะยอมจ่าย Prepaid มากกว่า (ยกเว้นเมืองไทย ที่มันต้องเก็บเบอร์) เพราะว่าเครือข่ายแต่ละรายบางครั้งมันไม่มีเครื่องที่เราต้องการ (O2 UK) บางครั้งมันเกิดบริการห่วย (Three Australia, Vodafone UK) บางครั้งมันขึ้นราคาต่อนาที (Telstra) บางครั้งก็ตัดสินใจจะเปลี่ยนหลักการคิดเงิน (Optus) ทำให้รู้สึกว่าเรายอมจ่ายมากกว่าเพื่อ Unlocked phone + Prepaid มันจะคุ้มกับสิ่งที่เรารู้สึกดีมากกว่า
ส่วนสาเหตุของ Model การขายเครื่องพ่วงสัญญามันเป็น Mutual benefit ของทั้ง Industry ล่ะครับ คือเป็นการรักษาลูกค้าได้ระยะยาว ไม่ต้องแย่งลูกค้ากันบ่อยครั้งเกินไป ทำให้ไม่ต้องแข่งกันด้านราคา แต่แข่งกันที่เครื่องมือถือแทน ส่วนคนผลิตมือถือก็สบายไม่ต้องทำการตลาดเครื่องมือถือให้เครือข่ายทำให้
@TonsTweetings
ตัว tower, ค่าไฟ, ซอฟต์แวร์ ฯลฯ เราต้องซื้อจากต่างชาติ จะให้เทียบกับค่าครองชีพคงไม่แฟร์เท่าใหร่มังครับ จะเทียบได้บ้างคือค่าวิศวกรของเราถูกกว่า แต่ก็ไม่สะท้อนอัตราค่าครองชีพรวมของประเทศอยู่ดี เรายังอยู่ในฐานะผู้บริโภคเทคโนโลยีคงไปบอกให้มันถูกตามที่เราคิดไม่ได้
หลายประเทศมองโมเดลสหรัฐฯ ว่าไม่สร้างการแข่งขันที่ดีครับ การผูกเครื่องเข้ากับเครือข่ายอย่างอิสระทำให้หลายค่ายได้เปรียบเพราะลูกค้าอยากได้แค่เครื่องเช่นกรณี iPhone ประเทศไทยดูเหมือนจะพยายามตามโมเดลยุโรป ซึ่งโดยทั่วไปผมเห็นด้วยนะ เพราะเรามีลูกค้าที่ใช้งานน้อยมากๆ อยู่จำนวนมาก
ส่วนอะไรแพงกว่าอะไร มันเป็นเรื่องของการแข่งขันครับ ตลาด pre-paid มันแข่งขันกันหนัก ก็ต้องลดราคา ผมเองก็ใช้รายเดือนมาก่อนก็ไม่รู้สึกว่ามันมีปัญหาอะไร การสวิตซ์มาใช้ pre-paid ก็ทำได้ง่ายมาก
lewcpe.com, @wasonliw
ที่จริงผมว่า Apple น่าจะ unlock ให้กับลูกค้าที่ซื้อ iPhone 4 ของ AT&T ไปด้วยนะครับ หลังจากหมดสัญญา เพราะมูลค่าที่จ่ายโดยรวมไปทั้งหมดมันเยอะกว่าค่า unlocked iPhone ไปแล้ว
AT&T ไม่ยอมหรอกค่ะ
ซีอีโอสตีฟ จ๊อป ฝากมาบอกว่า "รักทุกคน" ^_^